นลท.เทขายหุ้นพลังงาน-ปิโตรฯ ฉุดภาพรวมตลาดร่วง จับตา “ทรัมป์” พบ “คิม จอง อึน” หนุนตลาดตอบรับเชิงบวก

นลท.เทขายหุ้นพลังงาน-ปิโตรฯ ฉุดภาพรวมตลาดร่วง จับตา “ทรัมป์” พบ “คิม จอง อึน” หนุนตลาดตอบรับเชิงบวก

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ นักกลยุทธ์การลงทุนอิสระ เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ (26 ก.พ.62) ว่า ตลาดวันนี้ปรับตัวลดลงไปประมาณ 8 จุด แรงกดดันหลักๆ เกิดจากนักลงทุนเทขายหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี แต่ภาพรวมตลาดถือว่าไม่ได้แย่ทั้งหมด เพราะว่าเห็นแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มหุ้นสื่อสาร จากความคาดหวังที่วันนี้มีการประชุม ครม.ว่า คสช.อาจจะออกมาตรา 44 ในการที่จะขยายระยะเวลาชำระค่าใบอนุญาคคลื่น 900 ประกอบกับมีแรงซื้อกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่วันนี้เห็นมีการปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความเป็นเรื่องของ Sector Location ที่นักลงทุนโยกเงินจากกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ไปยังกลุ่มหุ้นสื่อสารและธนาคาร
เพราะฉะนั้นโดยรวมตลาดไม่ได้แย่ เนื่องจากกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันที่เมื่อคืนปรับลดลงเกือบๆ 3% ซึ่งถือว่าเป็นแค่ระยะสั้น โดยราคาน้ำมันปรับลดลงเกิดจากทวิตเตอร์ของ “ทรัมป์” ซึ่งคาดว่าไม่ได้ปรับตัวลดลงนาน แต่ต้องมานั่งกังวลเรื่องของ supply ที่เริ่ม shortest จากการลด Production ของตัวซาอุ

ดังนั้นทิศทางวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.62) คาดว่า อาจจะเห็นกระแสเงินไหลกลับเข้ามาในกลุ่มพลังงานบ้าง แต่อาจจะยังไม่ได้ฟื้นตัวโดดเด่นนัก โดยการเคลื่อนไหวน่าจะยังอยู่ในกรอบแคบ 1,660-1,680 จุด ส่วนเรื่องประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาการยุบพรรค “ไทยรักษาชาติ” คิดว่าไม่มีผลใดๆ ต่อตลาดเพราะว่าเป็นแค่นัดแรก ยังมีนัดสืบพยาน และตัดสินอีกนาน เพราะฉะนั้นไม่น่าจะเป็นประเด็นอะไรที่กดดันตลาดได้
สิ่งที่ต้องติดตามคือความคืบหน้าการนัดพบกันระหว่าง “ทรัมป์” และ “คิม จอง อึน” ซึ่งคาดว่าน่าจะมีบรรยากาศที่ดี เพราะว่าอาจจะเป็นไปได้ที่จะมีการประกาศยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ ซึ่งตลาดหุ้น North Asia ก็จะตอบรับในเชิงบวก


ส่วนกลยุทธ์การลงทุนน่าจะเก็บหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับลดลงมา เช่น PTTEP และ IRPC รวมไปถึงกลุ่มปันผลสูง เช่น TISCO, KKP