ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาต่ำกว่าคาด

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (11/3) ที่ระดับ 31.72/74 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (8/3) ที่ระดับ 31.76/77 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์ได้รับปัจจัยกดดันหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 20,000 ตำแหน่งในเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.9%

นอกจากนี้นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ แต่จะชะลอตัวลงเล็กน้อยเท่านั้น นายพาวเวลยังได้กล่าวปกป้องการดำเนินนโยบายของคณะกรรมการเฟด โดยกล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้แรงกดดันทางการเมืองเพื่อโจมตีเฟดนั้น ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของเฟดในการประชุมเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเฟดได้ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.67-31.74 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.71/31.73 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (11/3) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.228/29 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (8/3) ที่ระดับ 1.1212/15 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยตลาดจับตารัฐสภาอังกฤษมีกำหนดลงมติอีกครั้งต่อข้อตกลงในการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ในวันพรุ่งนี้ (12/3) ซึ่งหากสภามีมติไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงดังกล่าวอีกครั้งในสัปดาห์หน้า นางเมย์ก็จะเสนอให้รัฐสภาเลือกระหว่างการแยกตัวออกจาก EU โดยไร้ข้อตกลง หรือจะเรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเวลาการแยกตัวจากเดิมในวันที่ 29 มีนาคม นอกจากนี้สำนักงานสถิติเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีลดลงอย่างไม่คาดคิดที่ 0.8% ในเดือน ม.ค. ขณะที่เศรษฐกิจของเยอรมนีกำลังได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้า และการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1223-1.1251 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1246/50 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (11/3) เปิดตลาดที่ระดับ 110.96/97 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (8/3) ที่ระดับ 111.11/14 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจจะคงการประเมินสภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ขยายตัวในระดับปานกลาง แต่เตือนถึงปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศในการประชุมทบทวนอัตราดอกเบี้ยในระหว่างวันที่ 14-15 มีนาคม นี้ ซึ่งคาดว่าบีโอเจจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ -0.1% ต่อไป ทั้งนี้ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 110.88-111.30เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 111.23/25 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือน ม.ค. (11/3) อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ. (12/3) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.พ. (13/3) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ม.ค. (13/3) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (14/3) ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือน ก.พ. (14/3) ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือน มี.ค. จากเฟดนิวยอร์ (15/3) การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.พ. (15/3) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (15/3)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.5/-2.35 สตางค์/ดอลลาร์สหรับ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -1.0/-0.3 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ