เอ็กซิมแบงก์ปักธงพนมเปญ ติดปีกนักธุรกิจรุก CLMV

นับเป็นแห่งที่ 3 ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ที่ได้ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ “สำนักงานผู้แทน EXIM BANK” ในกรุงพนมเปญ กัมพูชา เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2562 เพื่อสยายปีกออกสู่กลุ่มลูกค้าธุรกิจและลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งเป็นอีกตลาดส่งออกที่สำคัญของไทยที่ปัจจุบันนี้มียอดส่งออกแซงหน้าตลาดส่งออกสำคัญของไทย ทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป รวมถึงญี่ปุ่นด้วย

โดยการเปิดสำนักงานผู้แทนในกรุงพนมเปญครั้งนี้ มาพร้อมกับการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ “บริการสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ซื้อในประเทศ CLMV (EXIM loan for CLMV buyer)” ที่ผู้กู้จะมีวงเงินสินเชื่อให้ผู้ประกอบการใน CLMV ใช้ซื้อสินค้าและบริการจากไทย ระยะเวลากู้ไม่เกิน 5 ปี สูงสุด 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อราย และไม่เกิน 85% ของมูลค่าซื้อขายสินค้าหรือบริการจากไทย อัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ LIBOR +4.0% ต่อปี

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงานผู้แทน EXIM BANK ในกรุงพนมเปญว่า ได้รับการสนับสนุนทั้งจากรัฐบาลกัมพูชาผ่านธนาคารแห่งชาติกัมพูชา และกระทรวงการคลังของกัมพูชา ซึ่งจะทำให้ EXIM BANK มีบทบาทเพิ่มขึ้นในการขับเคลื่อนผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SMEs ได้มีโอกาสทางธุรกิจ และสามารถเติบโตไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจกัมพูชา

ซึ่งการเปิดสำนักงานผู้แทนมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการส่งออกของไทยไปยัง CLMV ในปี 2562 ต่อเนื่องจากปี 2561 ที่ดันการส่งออกไป CLMV ขยายตัวในระดับสูงถึง 17% แซงหน้าตลาดส่งออกสำคัญ ๆ ไปแล้ว โดย EXIM BANK จะให้บริการเพื่อชำระค่าสินค้าโดยตรงให้แก่ผู้ส่งออกไทย ช่วยให้ผู้ส่งออกมีความมั่นใจที่จะขยายการค้ากับคู่ค้าใน CLMV มากขึ้น

ส่วนการเปิดสำนักงานผู้แทนในประเทศเมียนมาเมื่อ 2 ปีก่อน นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ผลตอบรับถือว่าดี โดยมีลูกค้ามาติดต่อกับ EXIM BANK ค่อนข้างมาก โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นธุรกิจโรงไฟฟ้า พลังงานทางเลือก โครงข่ายไฟฟ้า-ประปา ส่วน สปป.ลาวเป็นโครงการประเภทเขื่อนและโรงงาน แต่เพิ่งเปิดเมื่อปลายปีที่แล้วจึงยังเงียบ ๆ อยู่ ขณะที่ลูกค้าในกัมพูชาจะเป็นกิจการด้านการสร้างถนน สายส่งไฟฟ้า เป็นต้น

“ที่เปิดในพนมเปญก็หวังว่าจะดี เพราะกัมพูชากำลังโตเต็มที่ การที่ EXIM BANK ไป CLMV เพราะเราติดต่อประเทศเหล่านี้ได้ใกล้มาก EXIM BANK สามารถทำอะไรที่เพิ่มประสิทธิภาพให้ผู้ประกอบการได้ ช่วยเชื่อมโยงได้มากขึ้น จึงได้ตัดสินใจเปิดสาขาใน CLMV แต่ก็ไม่จำเป็นต้องไปทุกประเทศ เพราะถ้าตรงไหนไม่มีศักยภาพเราคงไม่ไปทำ” นายอภิศักดิ์กล่าว

Advertisment

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า เมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานผู้แทนในกรุงพนมเปญได้เปิดให้บริการจนถึงปัจจุบัน มีลูกค้ามาขอสินเชื่อกว่า 200 ล้านดอลลาร์แล้ว แต่มีการชำระคืนหนี้บางส่วน ทำให้ยอดปล่อยกู้คงเหลือราว 190 ล้านดอลลาร์ ซึ่งธนาคารตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อในระยะ 2 ปี (2562-2563) เติบโต 1 เท่าตัวจากปัจจุบัน หรือราว 300-400 ล้านดอลลาร์

“ธุรกิจแฟรนไชส์ของไทยเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีโอกาสขยายตัวในกัมพูชา อาทิ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เบเกอรี่ และสปา เป็นต้น ซึ่งจะสามารถรองรับความต้องการของคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะในพนมเปญที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น อีกทั้งชาวต่างชาติที่ทำงานในกัมพูชา และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการบริการแบบคุ้นเคย ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจของกัมพูชาเฉลี่ยปีละ 6.5% ในระยะ 5 ปีข้างหน้า” นายพิศิษฐ์กล่าว

Advertisment

สำหรับที่ผ่านมา EXIM BANK ได้สนับสนุนการลงทุนไทยในกัมพูชาจำนวนมากกว่า 4 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม และการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ

ทั้งนี้ปัจจุบันธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างในกัมพูชา ณ สิ้นปีཹ อยู่ที่ 2.3-2.4 พันล้านบาท สปป.ลาวอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท และเมียนมาอยู่ที่ 3 พันล้านบาท

ส่วนแผนการเปิดสำนักงานตัวแทนในเวียดนาม น่าจะเกิดขึ้นในปี 2563 รวมถึงกำลังศึกษาในประเทศอื่น ๆ อีกด้วย เช่น อินเดีย และแอฟริกาใต้ เป็นต้น

หุ