เงินดอลลาร์ทรงตัว ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการลงมติ Brexit ของรัฐสภาสหราชอาณาจักร

แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 13 มีนาคม 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (13/3) ที่ระดับ 31.64/65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันอังคาร (12/3) ที่ระดับ 31.63/64 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ถึงแม้เมื่อวานนี้ (12/3) สมาชิกสภาสามัญชนของสหราชอาณาจักรลงมติด้วยคะแนนเสียง 391 ต่อ 242 เสียง ในการปฏิเสธข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ทำไว้กับผู้นำสหภาพยุโรป (EU) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (11/3) ทั้งนี้ สำหรับขั้นตอนต่อไป รัฐสภาของสหราชอาณาจักรจะทำการลงมติในวันนี้ (13/3) ว่าจะเห็นชอบต่อการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยไร้ข้อตกลงหรือไม่ หากรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบ ก็จะทำการลงมติในวันพรุ่งนี้ (14/3) ว่าจะเรียกร้องให้สหภาพยุโรป เลื่อนกำหนดเวลาการแยกตัวจากเดิมในวันที่ 29 มีนาคม หรือไม่ หากรัฐสภามีมติเรียกร้องให้ขยายกำหนดเวลาออกไป รัฐบาลของสหราชอาณาจักรก็จะต้องทำการเจรจากับสหภาพยุโรปในประเด็นดังกล่าว แต่หากรัฐสภามีมติไม่เรียกร้องให้สหภาพยุโรปขยายกำหนดเวลาออกไป อังกฤษก็จะแยกตัวจากสหภาพยุโรป อย่างเป็นทางการตามกำหนดเดิมในวันที่ 29 มีนาคม

นอกจากนี้นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) กล่าวว่า สหรัฐและจีนกำลังใกล้จะบรรลุข้อตกลงทางการค้าแล้ว แต่สหรัฐจะไม่ตัดทิ้งทางเลือกในการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพื่อรับประกันว่าจีนจะปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเพื่ออาจมีข้อสรุปภายในไม่กี่สัปดาห์ อีกทั้งเมื่อคืนวาน (12/3) กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนในเดือนกุมภาพันธ์ โดยปรับขึ้นร้อยละ 01.2 เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบรายปี ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในอัตราต่ำที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 31.61-31.68 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.61/63 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (13/3) ที่ระดับ 1.1288/91 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร  (12/3) ที่ระดับ 1.1272/75 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร เงินยูโรแข็งค่าสวนทางกับเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี เมื่อเปรียบเทียบรายปี ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกยังจับตารอดูการลงมติของรัฐสภาของสหราชอาณาจักรว่าจะเห็นชอบต่อการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยไร้ข้อตกลงหรือไม่ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1275-1.1299 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1294/96 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (13/3) ที่ระดับ 111.24/26 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่ือวันอังคาร (12/3) ที่ระดับ 111.36/38 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยเมื่อเช้าวันนี้ (13/3) ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ  0.8 ในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากภาคธุรกิจคลายกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐและจีนใกล้จะยุติข้อพิพาททางการค้า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภคของญี่ปุ่นในเดือนมกราคม ปรับตัวลดลงร้อยละ 5.4 เมื่อเปรียบเทียบรายเดือนซึ่งดัชนีดังกล่าวได้ปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน นับเป็นสัญญาณว่าบริษัทต่าง ๆ ของญี่ปุ่นต้องการลดการใช้จ่ายในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 111.13-111.38 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 111.33/36 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้ได้แก่ การลงมติ Brexit ของรัฐสภา สหราชอาณาจักร (13/3), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (14/3), ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ (14/3), ดัชนีภาคการผลิต (Empirs State Manufacturing Index) เดือนมีนาคม จากเฟดนิวยอร์ก (15/3),การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธ์ (15/3), และความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เดือนมีนาคมจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (15/3)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.60/-2.50 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.9/-0.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ