ส่งออกไทยไร้สัญญาณบวก ธปท.ชี้ไตรมาสแรกติดลบคาดทั้งปีโต3%

แบงก์ชาติชี้แนวโน้มส่งออกไทยครึ่งปีแรกไร้สัญญาณบวก-ไตรมาสแรกติดลบ จับตาการลงทุนเริ่มชะลอในเดือน ก.พ. หวังจัดตั้งรัฐบาลได้ก่อน มิ.ย.หนุนสร้างความเชื่อมั่นภาคเอกชน ฟาก “กสิกร” จ่อลดจีดีพีโตต่ำกว่า 4% ห่วงจัดตั้งรัฐบาลลากยาวฉุดลงทุนเอกชน-ตลาดหุ้น

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่การส่งออกน่าจะหดตัว หลังจาก 2 เดือนแรกหดตัวแล้ว -3.2% ขณะเดียวกันยังต้องจับตาเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ในเดือน ก.พ. 2562 มีการหดตัวเล็กน้อยตามการลงทุนในหมวดก่อสร้าง ทำให้ต้องติดตามในระยะต่อไปว่าจะดีขึ้นหรือไม่

ส่วนปัจจัยการเลือกตั้งที่นักลงทุนบางส่วนอาจจะยังรอความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหากสามารถตั้งรัฐบาลได้เร็วกว่ากรอบที่มีการมองไว้ว่าจะภายในเดือน มิ.ย. ก็จะเป็นผลบวกต่อความเชื่อมั่นของเอกชน เพราะจะทำให้เห็นทิศทางนโยบายเศรษฐกิจที่ชัดขึ้น ว่าจะเน้นกระตุ้นบริโภคหรือลงทุนอย่างไร แต่หากเงื่อนเวลาเป็นไปตามที่คาดไว้ ก็ถือว่าอยู่ในประมาณการเดิมที่ ธปท.ได้คาดไว้แล้ว

“การลงทุน ถ้าเป็นโครงการอีอีซีคงไม่มีปัญหา เพราะรัฐบาลปัจจุบันมีอำนาจเต็ม สามารถเซ็นได้ ส่วนเอสเอ็มอีก็เห็นทางธนาคารกรุงศรีอยุธยาประเมินว่าไม่ได้รับผลกระทบจากการเมือง ก็อาจต้องระวังกลุ่มที่อยู่ตรงกลางระหว่างโครงการขนาดใหญ่กับการลงทุนของรายย่อย ซึ่งอาจจะมีการรอดูสถานการณ์บ้าง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับว่าจะใช้เวลานานขนาดไหนในการจัดตั้งรัฐบาล” นายดอนกล่าว

นายดอนกล่าวว่า ยังไม่เห็นสัญญาณการปรับตัวขึ้นของภาคการส่งออกในระยะข้างหน้า ถือเป็นตัวแปรเดียวที่ดูแล้วยังไม่เห็นการปรับตัวที่ดีขึ้น โดยไตรมาสแรกน่าจะติดลบ และคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของการส่งออกที่ชัดเจนในครึ่งหลังของปี และส่งออกทั้งปีคาดเติบโตราว 3%

ทั้งนี้ การที่มองว่าส่งออกจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลังเพราะประเมินว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกน่าจะปรับตัวดีขึ้น ทั้งการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่น่าจะมีข้อสรุปออกมาบ้าง รวมถึงการที่หลาย ๆ ประเทศมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และหยุดความเข้มงวดในการดำเนินนโยบายเพื่อพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ทรุด นอกจากนี้ยังมีวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าจะดีขึ้นด้วย

นายกอบสิทธิ์ ศิลปะชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยอาจจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ลงจากเดิมที่คาดโต 4% เนื่องจากมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้าที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย ขณะที่ปัจจัยในประเทศอย่างการเลือกตั้งก็จะมีผลต่อการลงทุนภาคเอกชน เพราะจะรอความชัดเจนว่านโยบายเศรษฐกิจจะเดินได้ต่อเนื่องหรือไม่


“หากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล การตัดสินใจลงทุนก็อาจจะชะลอไปก่อน ซึ่งหากนานมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะเป็นการเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพราะคนจะมองว่าธุรกิจของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีค่าเสียโอกาสสูงขึ้น” นายกอบสิทธิ์กล่าว