อธิบดีสรรพากร โต้ภาษีอีเพย์เมนต์ไม่ได้จ้องรีดค้าออนไลน์ ย้ำจับตาธุรกิจใช้เงินสดเป็นกลุ่มเสี่ยง

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กฎหมายภาษีอีเพย์เมนต์ ที่ให้สถาบันการเงินส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ข้อมูลที่จะต้องเสียภาษี เนื่องจากกรมสรรพากรสามารถเรียกข้อมูลเหล่านี้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่การให้รายงาน จะนำข้อมูลมาประกอบเพื่อทำการวิเคราะห์ แยกระหว่างคนดีกับคนไม่ดี

“มีคนเข้าใจผิด แล้วบอกว่าต่อไปนี้ไม่ต้องโอนเงินทางอีเพย์เมนต์กันแล้ว หันไปใช้เงินสดให้หมด ผมขอบอกว่านี่เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะต่อไปใครที่ทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เราจะอำนวยความสะดวก แต่ใครยิ่งใช้เงินสดนั่นแหละที่จะเป็นกลุ่มเสี่ยง” นายเอกนิติกล่าว

นอกจากนี้ คนที่มีแนวคิดว่าจะแตกบัญชีเงินฝากออกเป็นหลาย ๆบัญชี เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจสอบนั้น ยืนยันว่า เป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง เพราะหากทำเช่นนั้น กรมก็จะมีการใช้วิธีอื่นในการตรวจสอบได้

อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวด้วยว่า กรมไม่ได้มีเป้าหมายหลักที่จะไปเก็บภาษีค้าออนไลน์เป็นพิเศษ แต่จริง ๆแล้ว กรมต้องการสร้างความเป็นธรรม ไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์ หากใครทำไม่ถูกต้องก็ต้องถูกตรวจสอบเช่นเดียวกัน

นายเอกนิติ กล่าวด้วยว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 กรมสรรพากรเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมายแล้วราว 30,000 ล้านบาท โดยจัดเก็บได้สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนถึงกว่า 50,000 ล้านบาท