“ชัย โสภณพนิช” ให้เป้า BKI ผลิตเบี้ยรับรวมปีนี้ทะลุ 2 หมื่นล. แนะรัฐกระตุ้น ศก.ดันกำลังซื้อรากหญ้าฟื้น

“ชัย โสภณพนิช” ให้เป้ากรุงเทพประกันภัยผลิตเบี้ยรับรวมปี’62 อยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท โต 15% จากปีก่อน แนะรัฐบาลใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจผลักดันกำลังซื้อคนระดับล่างฟื้น ด้าน “อภิสิทธิ์” กรรมการและประธานคณะผู้บริหารบริษัท คาดเบี้ยประกันรถโต 20% ประกันที่ไม่ใช่รถโตอย่างน้อย 9% เล็งศึกษากรมธรรม์ประกันภัยรถบรรทุก logistics ผนวกกับประกัน Carriers’ liability

นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะดีขึ้นหลังมีการจัดตั้งรัฐบาล เพราะมีโครงการเมกะโปรเจคหลายโครงการค้างอยู่ แต่ปัญหาขณะนี้แม้จะมีเงินลงทุนค่อนข้างมาก แต่กำลังซื้อของคนระดับล่างยังไม่ฟื้น เนื่องจากแรงงานส่วนใหญ่เป็นต่างด้าว เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรทำคือการช่วยเหลือกลุ่มรากหญ้า โดยเฉพาะเอสเอ็มอีหรือผู้ประกอบการขนาดเล็ก เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยพยุงให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นมาได้

อย่างไรก็ดีในช่วง 1-2 เดือนนี้ บริษัทก็สนใจจะเข้าไปซื้อหรือลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะคาดว่าดัชนีน่าจะขยับตัวดีขึ้นสอดรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทย

นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) เปิดเผยว่า ในปี 2562 บริษัทได้รับเป้าหมายในการสร้างผลผลิตของเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 17,326 ล้านบาท โดยยังคงยึดหลักการสร้างดุลยภาพในการขยายงานควบคู่ไปกับการรักษามาตรฐานของผลประกอบการ ภายใต้กระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยงภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งบริษัทจะยังคงรักษาระดับกำไรจากการรับประกันภัยไว้ไม่ต่ำกว่า 10% และกำไรต่อหุ้นไม่ต่ำกว่า 15 บาท

ทั้งนี้บริษัทได้กำหนดทิศทางการดำเนินงานหลักๆ ในปีนี้คือ 1.การขยายงานด้านการประกันภัยรถยนต์เชิงรุก โดยตั้งเป้าเติบโต 20% ช่วยหนุนสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรถยนต์เพิ่มเป็น 43% จากเดิมอยู่ที่ 41% เมื่อปี 2561 ผ่านการขยายประกันภัยรถตามภูมิภาค (Motor Pricing by Region) ที่มีการขยายงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอัตราความเสียหาย (Loss Ratio) ที่อยู่ในระดับ 50% ซึ่งถือว่าไม่สูงมากนัก

นอกจากนี้จะขยายงานประกันรถบรรทุก ซึ่งเริ่มขยายงานอย่างจริงจังตั้งแต่ปลายปี 61 ผ่าน Package Truck We Insure โดยการปรับเบี้ยประกันให้สามารถแข่งขันในตลาดได้มากขึ้นสำหรับรถบรรทุกขนาดตั้งแต่ 4-12 ตัน และขนาดมากกว่า 12 ตัน โดยปีก่อนมีเบี้ยประกันภัยรถบรรทุกอยู่ที่ 1,059 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษากรมธรรม์ประกันภัยรถบรรทุก logistics ผนวกกับประกัน Carriers’ liability

ส่วนประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 บริษัทมีการปรับปรุงแพกเกจเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดีบริษัทได้พัฒนาการให้บริการหลังการขาย และบริการสินไหมทดแทนให้ดียิ่งขึ้นผ่านการนำระบบ AI Motor Claims Contact Center มาเป็นผู้ช่วยในการรับโทรศัพท์จากลูกค้า โดยระบบสามารถประเมินความต้องการของลูกค้าที่สนทนาด้วยน้ำเสียงเสมือนจริง รองรับการบริการได้หลากหลายช่องทาง เช่น การแจ้งอุบัติเหตุเพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปให้บริการ เคลม ณ จุดเกิดเหตุ หรือติดต่อสอบถามเรื่องอื่นๆ เช่น การจัดซ่อมรถ การทำประกันภัย โดยระบบจะทำโอนสายให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแลลูกค้าต่อได้ทันที คาดว่าจะเริ่มได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป

นอกจากนี้การให้บริการเคลมผ่านแอปพลิเคชันไลน์ โดยใช้ชื่อว่า @bkimotorclaims ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะเพิ่มความสะดวกและความรวดเร็วในการให้บริการรับแจ้งเคลม พร้อมทั้งตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิทัล โดยลูกค้าสามารถแจ้งเคลมประกันภัยรถยนต์ และติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินไหมทดแทนยานยนต์ได้ทันที ทั้งการส่งข้อความ ส่งรูปภาพรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย และแชร์ตำแหน่งที่อยู่ (Location) ซึ่งเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุได้

การนัดหมายนำรถเข้าซ่อม (Repairing Appointment Service) เมื่อลูกค้าแจ้งเปิดเคลมและประสงค์นำรถเข้าจัดซ่อมอู่ในสัญญา บริษัทฯ จะส่งอีเมลแจ้งเตือนให้อู่ซ่อมรถติดต่อลูกค้าในวันรุ่งขึ้น เพื่อนัดหมายคิวก่อนนำรถเข้าอู่และให้คำปรึกษาด้านงานซ่อม ซึ่งอู่สามารถวางแผนการซ่อมและจัดหาอะไหล่ไว้ได้ล่วงหน้า เพื่อความรวดเร็วในการจัดซ่อม และลดระยะเวลาในการจอดซ่อมนาน โดยอู่จะเสนอการให้บริการรับ-ส่งรถให้แก่ลูกค้าทราบด้วย ซึ่งเป็นบริการเสริมพิเศษสำหรับลูกค้าของบริษัทเมื่อลูกค้าแจ้งอุบัติเหตุผ่าน Call Center ที่หมายเลข 1620 เจ้าหน้าที่จะทำการบันทึกสถานที่เกิดเหตุ ระบบจะนำข้อความสถานที่ที่ถูกบันทึกไปหาที่ตั้งค่าบน Google map แล้วระบุค่า Latitude/Longitude พร้อม Mark จุดเพื่อให้ทราบตำแหน่งของลูกค้าแล้วกำหนดเป็นศูนย์กลางขยายวงหาตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ที่ใกล้ที่สุด เพื่อแจ้งให้ออกไปบริการลูกค้า
การรับแจ้งอุบัติเหตุผ่าน Application BKI iCare ภายใต้ Function การทำงาน Locate me

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนขยายงานประกันภัยที่ไม่ใช่รถ (น็อนมอเตอร์) คาดว่าจะอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 9% จากปีก่อน โดยมุ่งขยายงานโครงการ Mega Projects ของภาครัฐ และงานตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche market) เช่น ประกันภัย Engineering, Aviation, ประกันภัย D&O (Director & Officer Liability Insurance) ซึ่งมีฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่มและยังมีคู่แข่งขันน้อยราย

รวมทั้งการนำ Robotic Process Automation ที่ใช้เทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาดในการทำงานของพนักงาน รวมทั้งลดต้นทุนในการดำเนินงานของบริษัท เช่น งาน Travel Accident for Tour Operators and Guides Insurance Process, งาน Marine, IAR

บริษัทมีแผนงานที่จะลงทุนในด้านเทคโนโลยีที่จะยกระดับมาตรฐานการให้บริการ โดยกำลังศึกษาการปรับเปลี่ยนระบบรับประกันภัยหลักของบริษัทด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนา และออกแบบอย่างเป็นสากล เพื่อให้เข้ามาช่วยเสริมการทำงาน การบริหารจัดการข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพระบบการบริการประกันภัย และสามารถตอบโจทย์ความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กับผู้เอาประกันภัยได้อย่างสูงสุด

นอกจากนี้บริษัทยังวางแผนเพิ่มจำนวน Risk Engineer และเพิ่มจำนวนตัวแทนใหม่ เพื่อรองรับการขยายงาน ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มอัตราการต่ออายุกรมธรรม์ 2% จากปี 61 83% เพิ่มขึ้นเป็น 85% ในปีนี้ และขยายงานลูกค้ารายย่อยเติบโต 8.1% คิดเป็นสัดส่วนเบี้ยประกันภัย 48.7% ของเบี้ยประกันภัยรับตรง

อย่างไรก็ตามบริษัทจะขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 3 สาขา ที่จังหวัดสมุทรสาคร สุพรรณบุรี และลำปาง นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม