ลุ้นรัฐบาลใหม่หนุน TFFIF เฟส 2 ระดมทุน 5 หมื่นล้าน

สคร.ลุ้นรัฐบาลใหม่สานต่อ TFFIF เฟส 2 ระดมทุน 5 หมื่นล้านหลังเสนอแก้กฎหมายค่าผ่านทางของกรมทางหลวงไม่ทัน สนช.สมัยนี้ คลังชี้เป็นรูปแบบระดมทุนที่ไม่เพิ่มหนี้สาธารณะ

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เนื่องจากการแก้ไขกฎหมายกรมทางหลวง เพื่อขยายวัตถุประสงค์และแหล่งรายรับของเงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทาง เพื่อให้ครอบคลุมกรณีการระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) ยังอยู่ในชั้นคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงไม่ทันเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาได้ทันสมัยนี้แล้ว

“การแก้ไขกฎหมายของกรมทางหลวง ยังไม่ได้เสนอไปที่ สนช. ก็คงต้องรอสภาชุดใหม่เข้ามา โดยต้องรอทิศทางนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่” นายประภาศกล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบให้ขยายวัตถุประสงค์และแหล่งรายรับของเงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทางของกรมทางหลวง เพื่อให้ครอบคลุมกรณีการระดมทุนผ่าน TFFIF โดยให้ปรับโครงสร้างการระดมทุนผ่านมอเตอร์เวย์สาย 7 และสาย 9 สำหรับ TFFIF เฟส 2 ที่มีการได้ประมาณการความต้องการใช้เงินเบื้องต้น 5 หมื่นล้านบาท

โดยหลังจาก สคร.ได้นำหน่วยลงทุน TFFIF เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2561 ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดี ซึ่งการระดมทุนในเฟสแรก การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้นำค่าสิทธิ์ในรายได้ของทางด่วนพิเศษฉลองรัชและบูรพาวิถีโอนให้แก่ TFFIF เป็นมูลค่า 44,811 ล้านบาท

“หวังว่ารัฐบาลใหม่จะสานต่อ TFFIF เฟส 2 เพราะการระดมทุนรูปแบบนี้ จะไม่ก่อให้เกิดหนี้สาธารณะ เหมือนรัฐบาล หรือรัฐวิสาหกิจกู้แล้วให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน” แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้น ก.พ. 2562 มีจำนวน 6,901,694.60 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41.87% ของ GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) โดยแบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 5,642,720.68 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 920,284.05 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินซึ่งรัฐบาลค้ำประกัน 331,507.38 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 7,182.49 ล้านบาท ซึ่งหลังจากปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2562 ครั้งที่ 1 ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการคาดการณ์ว่า สัดส่วนหนี้สาธารณะจะเพิ่มไปอยู่ที่ 43.32% ในสิ้นเดือน ก.ย. 2562