ดอลลาร์แข็งค่า หลังสหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นแตะสูงสุดในรอบปีครึ่ง

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 24 เมษายน 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (24/4) ที่ระดับ  31.98/32.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดในวันอังคาร (23/4) ที่ระดับ 31.94/96 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ในเอเชียอ่อนค่าลงโดยส่วนใหญ่ในวันนี้ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยยอดขายบ้านใหม่เดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 4.5% สู่อัตรา 692,000 ยูนิตต่อปี สูงสุดในรอบเกือบ 1 ปีครึ่ง โดยได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราดอกเบี้ยจำนองและการร่วงลงของราคาบ้าน ซึ่งช่วยคลายวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของสหรัฐ

สำหรับความคืบหน้าประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า นายโรเบิร์ต ไลท์ไธเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐและนายสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งเพื่อร่วมการเจรจาการค้าที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ส่วนนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันเพื่อหารือเพิ่มเติมในวันที่ 8 พ.ค.

ทั้งนี้ประเด็นที่จะมีการหารือในสัปดาห์หน้าจะครอบคลุมประเด็นการค้าทั้งทรัพย์สินทางปัญญา, การบังคับให้ถ่ายโอนเทคโนโลยี, กำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี, เกษตรกรรม, บริการ, การจัดซื้อและการบังคับใช้กฎ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงจับตาดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาสแรกในวันศุกร์นี้ (26/4) ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.97-32.04 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.98/32.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (24/4) ที่ระดับ 1.1217/19 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (23/4) ที่ระดับ 1.1251/53 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าลงหลังจากที่ผลสำรวจพบว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีลดลงในเดือน
เม.ย. ซึ่งสวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีกำลังชะลอตัว เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าเป็นอุปสรรคกับผู้ส่งออก โดยสถาบันเศรษฐกิจ Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงสู่ระดับ 99.2 ในเดือน เม.ย. จากระดับ 99.7 ในเดือน มี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 99.9 ขณะเดียวกันธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานวิจัยว่า การเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐ และประเทศคู่ค้าหลักจะกระทบเศรษฐกิจของยูโรโซนเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1195-1.1231 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1215/17 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (24/4) ที่ระดับ 111.94/96 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (13/4) ที่ 111.85/87 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพุธและพฤหัสบดีนี้ (24-25/4) ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ที่ประชุม BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลหยุดยาว 10 วัน ระหว่างวันที่ 27 เม.ย.-6 พ.ค. เพื่อเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดิองค์ใหม่

ทั้งนี้ นายฮิเคโอะ คูมาโนะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยไออิชิ ไลฟ์ ได้ออกมากล่าวว่า ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากช่วงวันหยุดยาวนี้จะทำให้ GDP ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น และทำให้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ มีเหตุผลอีกข้อที่จะเดินหน้าขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือน ต.ค.นี้ตามแผนที่วางไว้ และเขาคาดว่าการใช้จ่ายเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจะเพิ่มขึ้นเกือบ 30% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 1.48 ล้านล้านเยน ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 111.75-111.92 เยน/ดอลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 111.87/89 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (25/4) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน มี.ค. (25/4) ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2562 (26/4) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (26/4)


สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.2/-2.1 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ 2.5/+2.9 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ