Q1 บจ. 3 รายลงทุนนอก 2 หมื่นล. ตลท.ชี้เทรนด์หอบเงินลุยธุรกิจปั๊มกำไรโต

ตลท.ชี้เทรนด์ บจ.ไทยหอบเงินลงทุนตรงใน ตปท.สูงต่อเนื่อง ล่าสุด 3 เดือนปีนี้ 3 บจ.ออกไปลงทุน 1-2 หมื่นล้านบาท ส่วนปี’61 มูลค่าลงทุนไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาท นำโดย 2 บจ.ใหญ่ “MINT-IVL” หนุนธุรกิจโต เหตุอยู่ในประเทศ “อิ่มตัว” ส่งซิกสัดส่วนรายได้ต่างประเทศของ บจ.โดยรวมเพิ่มขึ้น

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แนวโน้ม (เทรนด์) บจ.ออกไปลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1/62 (Q1) มี 3 บจ.นำเงินออกไปลงทุนแล้วราว 1-2 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ปี 2561 ยังเห็นบริษัทใหญ่ออกไปลงทุนผสมกับบริษัทกลางและเล็ก ซึ่งประเมินว่ามูลค่าลงทุนในต่างประเทศจะไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาทแน่นอน เพราะตัวเลขดังกล่าวเป็นดีลที่เกิดขึ้นแล้วของ 2 บจ.ใหญ่ หากนับรวมกับ บจ.อื่นที่ออกไปลงทุนก็จะมากกว่านี้แน่นอน ซึ่ง ตลท.ยังไม่ได้ทำข้อมูลทั้งปีออกมา ส่วนปี 2560 มี บจ.ออกไปลงทุน 226 บริษัท จำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีมูลค่าเงินลงทุนโดยตรงในต่างประเทศอยู่ที่ 6,210 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปี 2561 มี บจ.ใหญ่ 2 รายที่ลงทุนในต่างประเทศ ได้แก่ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ที่เข้าซื้อ NH Hotel Group มูลค่าราว 8 หมื่นล้านบาท และ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) มูลค่ารวมราว 6.8 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการทยอยลงทุน

นายแมนพงศ์กล่าวเพิ่มว่า ขณะที่สัดส่วนรายได้ของ บจ. (ที่จดทะเบียนใน SET และ mai) ที่ไปลงทุนในต่างประเทศ เติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี หากดูสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศของ บจ.โดยรวมที่เข้ามาไทยในปี 2560 จะอยู่ที่ 46% และ 33% ตามลำดับ ซึ่งหากพูดกันตรง ๆ ปัจจุบันการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศเพื่อนบ้าน “สูง” กว่าประเทศไทยแล้ว ดังนั้น หาก บจ.จะเติบโต ก็จะต้องออกหาโอกาสและตลาดนอกประเทศ เพราะต้องยอมรับว่าการเติบโตในประเทศคงไม่ค่อยมากแล้ว หรือเรียกว่า flat (นิ่ง ๆ) แต่ไม่ได้ลดลงหรืออาจลงเล็กน้อย ซึ่งไม่ถือว่าเป็นนัย ขณะที่นอกประเทศยังเห็นการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียนยังเติบโตค่อนข้างดี และถือเป็นกลไกหลักที่ขับเคลื่อน (growth engine) ของเศรษฐกิจโลก ซึ่ง บจ.ไทยออกไปลงทุนหนาแน่นอยู่ในภูมิภาคอาเซียน

“ผมว่าเทรนด์ออกไปลงทุนต่างประเทศนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะบริษัทไทยมีความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ หรือเก่งขึ้นเรื่อยในแง่การบริหารธุรกิจ ความรู้ความสามารถในการผลิตสินค้า เทคโนโลยี ที่สำคัญการบริหารจัดการเพราะไปเมืองนอกต่างบ้านต่างเมือง ต่างกฎหมาย และต่างคน คุณต้องเจ๋งพอ จึงจะไปได้รอด แล้วเราก็เห็นเทรนด์นี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี แปลว่า บจ.ไทยเก่งขึ้นทุกปี จึงกล้าไปเมืองนอกและไปก็ประสบความสำเร็จเพราะมีรายได้กลับมาเป็นกอบเป็นกำ” นายแมนพงศ์กล่าว

สำหรับกรณีที่มองว่าบริษัทจดทะเบียนโดยรวมมีกระแสเงินสดสูงนั้น นายแมนพงศ์กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาก็เห็นการลงทุนเกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ แต่การจะลงทุนหรือไม่ลงทุนต้องขึ้นกับแผนธุรกิจของบริษัทนั้น ๆ ด้วย ผลตอบแทนที่จะได้รับกลับมา เพราะหากนำเงินไปลงทุนแล้วไม่ได้รับผลตอบแทนกลับมาก็จะเกิดความเสี่ยงต่อผู้ถือหุ้นได้ ดังนั้น บจ.จึงต้องระมัดระวังการลงทุน