ปัจจัยในปท.ถ่วง SET ปรับขึ้นยาก นลท.รอความคืบหน้าการเมือง-กำไร บจ.

แฟ้มภาพ

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 29 เม.ย.62 ว่า ตลาดปรับตัวแคบๆ ปิดตลาดที่ระดับ 1,666.68 จุด ลดลง 0.47 จุด หรือ 0.03% ขณะที่มูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 37,096.27 ล้านบาท ประเด็นหลักคือนักลงทุนรอติดตามผลประกอบการไตรมาส 1 บางส่วนอาจถูกกดดันจากประเด็นการเมืองที่ไม่คืบหน้า ทำให้ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์น้อยกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ซึ่งความคาดหวังมองว่านักลงทุนรอความคืบหน้าเรื่องการเมืองว่า จะจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ยังตอบได้ยากกับสถานการณ์เช่นนี้ รวมถึงต้องติดตามการรายงานผลประกอบการของหุ้นรายตัวในช่วงไตรมาส 1 นี้

“ปัจจัยภายในประเทศเป็นตัวถ่วงการปรับตัวขึ้นของเซนติเมนต์” นายธนเดชกล่าว

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (30 เ.ม.ย.62) มองว่า ตลาดไม่น่าจะมีอะไรต่างไปจากวันนี้ โดยตลาดยังคงโฟกัสปัจจัยเดิมๆ ปัจจัยต่างประเทศความกังวลด้านราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ส่วนปัจจัยในประเทศหลักๆ จะเป็นเรื่องผลประกอบการ บจ. และประเด็นทางการเมือง จึงมองว่าการปรับตัวของ SET จะอยู่ในกรอบแคบๆ ต่อไป


ประเด็นบ้านเราหุ้นไม่ได้แพง แต่ประเด็นที่ยังตอบไม่ได้คือ เรื่องการเมืองในประเทศจะเดินต่ออย่างไร ซึ่งค่อนข้างทำให้นักลงทุนระยะยาวยังไม่ตัดสินใจเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย แม้ว่าที่ผ่านมาปีนี้ตลาดหุ้นไทยจะ Underperform แต่ปัจจัยในประเทศคนตัดสินใจยาก ฉะนั้นการที่จะทำให้หุ้นไทยพอจะปรับตัวขึ้นได้ก็คงต้องดูเรื่องผลประกอบการไตรมาส 1 และอานิสงส์ต่างประเทศจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน