สรรพากรเอ็มโอยู บสย. ค้ำเงินกู้ผ่าน 17 แบงก์หนุนเอสเอ็มอีทำบัญชีเดียว

 

วันนี้ (7 พ.ค.) กรมสรรพากร ได้จัดงาน “เสี่ยงกว่ามั้ย…ถ้าไม่ใช้บัญชีเดียว” เพื่อช่วยผู้ประกอบการประเมินความเสี่ยง ด้านภาษีอากรเพื่อเตรียมความพร้อมในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล โดยภายในงานดังกล่าว ได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือการส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้จัดทำและใช้บัญชี และงบการเงินอย่างถูกต้องระหว่าง กรมสรรพากร กับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ด้วย

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมได้ร่วมมือกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ทำบัญชีเดียว โดยลงทะเบียนปรับปรุงงบฯ การเงิน และเสียภาษีให้ถูกต้องกับกรมสรรพากรภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ จะได้รับสินเชื่อที่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ และ ค่าธรรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อที่ผ่อนปรน รวมถึงลดความเสี่ยงในการที่อาจจะต้องเสียเบี้ยปรับ เงินเพิ่มจากการตรวจสอบของกรมสรรพากรด้วย

“ถ้าเป็นผู้ประกอบการที่ดี ความเสี่ยงก็จะลดลง บสย. ก็ลดค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้เป็นพิเศษ เหลือแค่ 0.5% ดังนั้นการเข้ามาร่วมทำบัญชีเดียว นอกจากจะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการเอง จะได้รู้ผลประกอบการที่แท้จริง ใช้บัญชีเดียวที่ยื่นกับกรมสรรพากรไปยื่นขอสินเชื่อ ก็จะได้ดอกเบี้ยที่ต่ำลง แถมยังมีค่าธรรมเนียมค้ำที่ถูกลงด้วย ดังนั้นการทำบัญชีเดียวถือว่าคุ้มกว่า” นายเอกนิติกล่าว

นายเอกนิติ กล่าวด้วยว่า ช่วงนี้เป็นหนึ่งเดือนสุดท้ายของกำหนดระยะเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2561 ด้วย จึงขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการจัดทำบัญชีชุดเดียวและงบการเงินให้ถูกต้อง และยื่นแบบแสดงรายการภาษี ภายในวันที่ 30 พ.ค. 2562 อย่างไรก็ตาม กรณีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีทางอินเทอร์เน็ตจะสามารถ ยื่นแบบได้ถึงวันที่ 7 มิ.ย. 2562

ทั้งนี้ กรมสรรพากรได้จัดเตรียม Tax Ambassador ประจำสำนักงานสรรพากรพื้นที่ และสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา เพื่อให้บริการแนะนำความรู้ความเข้าใจในการยื่นแบบ แสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลและการชำระภาษีกรมสรรพากรให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน สมเป็น “กรมสรรพากรยุคใหม่” ที่จะพัฒนาการบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เสียภาษีอย่างแท้จริง

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า การทำบัญชีเดียวยังช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับสินเชื่อเร็วขึ้น เพราะแบงก์ไม่ต้องเสียเวลาไปคำนวณหารายได้ที่แท้จริงของผู้ประกอบการ

“ดังนั้น นอกจากเข้าถึงสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมถูกลงแล้ว ระยะเวลาในการอนุมัติสินเชื่อยังเร็วมากขึ้นด้วย” นายรักษ์กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จะกู้แบงก์ได้ในอัตราดอกเบี้ยแค่ 4-5% ต่อปี จากปกติที่สินเชื่อเอสเอ็มอีจะมีดอกเบี้ยถึง 8-9% ดังนั้นจึงใกล้เคียงกับซอฟต์โลน โดยจะเป็นดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี ขณะที่ บสย. มีโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทรัพย์ (PGS ระยะที่ 7) สำหรับนิติบุคคลบัญชีเล่มเดียว โดยเตรียมวงเงินไว้ทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท ให้วงเงินค้ำประกันต่อรายตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไป (ไม่เกิน 40 ล้านบาท) ระยะเวลาค้ำประกันสูงสุด 10 ปี ซึ่งปีแรกรัฐช่วยค่าธรรมเนียม 1.5% ปีที่ 2-3 รัฐช่วย 1% ผู้ประกอบการจ่ายเอง 0.5% และ ตั้งแต่ปีที่ 4 ขึ้นไป ผู้ประกอบการจ่ายเอง 1.5%

“เราจะมีบริการ 2 โปรแกรม ให้กับคนที่ลงทะเบียนกับกรมสรรพากรเพื่อทำบัญชีเดียว ซึ่งเขาอาจจะอยากใช้เงินปลายปีก็ได้ ก็จะได้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 5% เหมือนกัน จากแบงก์พันธมิตร คือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารยูโอบี ธนาคารธนชาต ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ส่วนแบงก์ที่เหลืออีกกว่า 10 แห่ง ดอกเบี้ยจะไม่ใช่ 5% แต่จะมีอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนของแต่ละแบงก์” นายรักษ์กล่าว