ดอลลาร์อ่อนค่า ตลาดจับตาการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน

แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวของตลาดปริวรรตเงินตราระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดในวันอังคาร (7/5) ที่ระดับ 31.91/93 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (3/5) ที่ระดับ 32.02/04 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรับเปิดเผยว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือน เม.ย. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าระดับ 196,000 ตำแหน่งในเดือน มี.ค. ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.8% อย่างไรก็ตาม ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานซึ่งเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ กลับเพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%

ในขณะที่เมื่อวันอาทิตย์ (5/5) ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ในวันศุกร์นี้ (10/5) เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ มีความคืบหน้า “ช้าเกินไป” และระบุว่า จะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินอีก 3.25 แสนล้านดอลาร์ในอัตรา 25% ในไม่ช้าเช่นกัน เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อการเจรจาการค้ากับจีน โดยหวังให้สงครามการค้าที่ยืดเยื้อมานานยุติลงต่อจากนั้นในวันศุกร์ (10/5) คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตัดสินใจปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากระดับ 10% ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าที่สูงขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน ในขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้แทนจีน ซึ่งเตรียมเข้าร่วมการเจรจารอบที่ 11 ระหว่างที่ปรึกษาด้านการค้าและเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐระบุว่า จีนจะใช้มาตรการตอบโต้ที่จำเป็น

สำหรับปัจจัยในประเทศในวันพุธ (8/5) ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องกรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1) ว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 128 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 หรือไม่ โดยมีข้อสรุปว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันในการวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ว่าไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 จึงไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน คณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทยมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.75 พร้อมกับคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าระดับที่ได้ประเมินไว้ จากการส่งออกที่ขยายตัวช้าลงกว่าที่ประเมินตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และผลจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ส่วนความคืบหน้าล่าสุดเรื่องการเลือกตั้งของประเทศไทย ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 128 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา  91 ทำให้ กกต.สามารถใช้สูตรตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเสนอคือมี 27 พรรคการเมืองที่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) จำนวน 149 คน โดยมีพรรคการเมืองได้รับการจัดสรร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ทั้งหมด 26 พรรคการเมือง ทั้งนี้ระหว่างสัปดาห์ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 31.60-31.96 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดในวันศุกร์ (10/5) ที่ระดับ 31.62/64 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรนั้น เปิดตลาดวันอังคาร (7/5) ที่ระดับ 1.1201/03 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (3/5) ที่ระดับ 1.1152/53 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร จากการอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนที่ปรับตัวขึ้น 1.7% ในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.6% ส่วนในวันพุธ (8/5) มีการรายงานยอดผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีประจำเดือนมีนาคมว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 สวนทางกับระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงร้อยละ 0.5 นอกจากนี้ในวันศุกร์ (10/5) มีรายงานตัวเลขดุลการค้าของเยอรมนีในเดือน มี.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.0 หมื่นล้านยูโร เกินดุลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.87 ล้านยูโร และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.94 ล้านยูโร ทั้งนี้ระหว่างสัปดาห์ค่าเงินยูโรมีการเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1.1164-1.1251 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1221/24 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร


สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดวันอังคาร (7/5) ที่ระดับ 110.65/67 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (3/5) ที่ระดับ 111.47/48 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มการถือครองสกุลเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น โดยในวันศุกร์ (10/5) ค่าเงินเยนยังคงปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังจากสหรัฐประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากระดับ 10% โดยระหว่างสัปดาห์ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 109.46-110.85 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 109.76-109.79 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ