ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย แนะติดตามทิศทางค่าเงินดอลลาร์หลังสงครามการค้าป่วนตลาดเงิน-ท่าทีเฟด ซึ่งอาจกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง
นักวิเคราะห์ เผยค่าเงินบาทไทยอ่อนค่าเล็กน้อยเช้านี้แนะติดตาม ทิศทางค่าเงินดอลลาร์เป็นหลัก หลังอ่อนค่าลงตั้งแต่สงครามการค้ากลับมาสร้างความผันผวนให้ตลาดเงิน รวมถึงท่าทีเฟดต่อมุมมองเศรษฐกิจและทิศทางดอกเบี้ยหลังจากนี้อาจจะกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง กรอบเงินบาทในวันนี้ 31.50 ถึง 31.60 บาทต่อดอลลาร์
ผู้สื่อข่าวรายงาน ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (13 พ.ค.) เปิดตลาดที่ระดับ 31.61 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าขึ้นจากช่วงปิดสิ้นสัปดาห์ก่อน(10 พ.ค.)ที่ระดับ 31.59 บาทต่อดอลลาร์
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักวิเคราะห์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาหลายเรื่อง โดยฝั่งสหรัฐ จะมีคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าเฟดจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับสงครามการค้า และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงทิศทางของดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าฝั่งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะสงครามการค้า ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนเมษายน ที่จะรายงานในวันพุธ (15 พ.ค.)มีแนวโน้มขยายตัวราว 0.4% จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่วันพฤหัส (16 พ.ค.)คาดว่าดัชนีภาวะภาคธุรกิจ โดยเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย (Philly Fed Business Outlook) จะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 11 จุด สะท้อนถึงมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในสหรัฐจากการจ้างงานที่อยู่ในระดับสูง
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ต้องติดตามทิศทางของค่าเงินดอลลาร์เป็นหลัก เนื่องจากดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลงตั้งแต่สงครามการค้ากลับมาสร้างความผันผวนในตลาดเงิน นอกจากนี้ก็ต้องระวังว่าเฟดอาจออกมาส่งสัญญาณว่าจะต้องคงดอกเบี้ยยาวด้วย ซึ่งก็จะกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง กรอบเงินบาทในวันนี้ 31.50 ถึง 31.60 บาทต่อดอลลาร์
ขณะที่ฝั่งสกุลเงินเอเชียรวมถึงเงินบาทไทย เชื่อว่าจะกลับมาแข็งค่าได้ตามทิศทางของดอลลาร์เช่นกัน อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงหลักจะอยู่ที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีน ซึ่งถ้ามีสัญญาณชะลอตัวลง อาจส่งผลให้นักลงทุนกลับมามีความกังวล และเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัยก่อน