บสย.เร่งเครื่องค้ำเงินกู้แสนล้าน อัดฉีดทุนปั้นช่างฝีมือ 77 จังหวัด

บรรยง วิเศษมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร
บสย.เร่งเครื่องค้ำประกันเงินกู้แสนล้าน จับมือกระทรวงแรงงาน มหาดไทย ช่วยฐานราก จัดคอร์สติวเข้มสารพัดช่างฝีมือ 77 จังหวัดดึงแบงก์ปล่อยกู้ซื้อเครื่องมือประกอบวิชาชีพสร้างรายได้ ไม่จำกัดวงเงิน รับค้ำประกันสินเชื่อเสร็จสรรพ สนองนโยบายรัฐขยายโอกาสคนตัวเล็กในชุมชน ท้องถิ่น

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย ประธานกรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บรรษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.-BAM) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทั้ง 2 องค์กรแม้มีภารกิจที่แตกต่างกัน แต่ก็มีความเชื่อมโยงกัน โดยเฉพาะการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยทั่วไป ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล

ดึงฝึกอาชีพ-รับค้ำประกันเงินกู้

ดังนั้นนอกจากภารกิจหลัก การค้ำประกันสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ ผู้ประกอบการรายย่อย startup และนวัตกรรม คลินิกค้ำประกันสินเชื่อออนไลน์ ที่กำลังเร่งเครื่องเต็มที่ให้เป็นไปตามเป้าหมายค้ำประกันสินเชื่อวงเงินกว่า 1 แสนล้านบาทแล้ว บสย.จะให้ความสำคัญกับการดูแลคนตัวเล็กมากขึ้นด้วย เพราะสถาบันการเงินไม่ค่อยให้ความสำคัญ อย่างการยื่นขอสินเชื่อ เนื่องจากต้นทุนธุรกรรม (ทรานแซ็กชั่น)

การปล่อยกู้ต่อรายสูงระดับ 1 แสนบาท หากจะมาปล่อยกู้ให้รายละ 5 หมื่นบาท 8 หมื่นบาท แบงก์อาจมองว่าไม่คุ้ม บสย.จึงต้องเข้าไปเติมเต็ม เช่นโครงการ “รักพี่วิน” เป็นต้น

ล่าสุดอยู่ระหว่างหารือกับฝ่ายจัดการว่า บสย.จะทำโครงการร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และสถาบันการเงินต่าง ๆ โดยช่วยเหลือฝึกอบรมกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ เช่น ช่างก่อสร้าง ช่างประปา ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม ฯลฯ ที่ต้องการเงินทุนประกอบอาชีพ ซื้อวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องมือหรือเงินสำหรับใช้หมุนเวียน

ไม่ลิมิต-77 จังหวัด

“เบื้องต้นจะทำโครงการเน้นช่วยคนตัวเล็ก คนรากหญ้า พวกช่างตามหมู่บ้าน ชุมชน โดยกระทรวงแรงงานจะฝึกอบรมอาชีพให้ เมื่อผ่านหลักสูตรแล้ว กระทรวงจะออกใบรับรองให้ ส่วน บสย.ก็ออกใบการันตี (L/G) โดยผู้ผ่านฝึกอบรมและได้ใบรับรองการฝึกอาชีพสามารถยื่นขอเงินกู้ได้โดยไม่จำกัดวงเงินโดย บสย.มีบุคลากรวิเคราะห์สินเชื่อให้เสร็จ สามารถนำเอกสารทั้งหมดไปยื่นขอกู้สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการได้ทันที พร้อมเอกสารค้ำประกันจาก บสย. โดยกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในระดับที่ต่ำ ขณะที่ดอกเบี้ยเงินกู้จากแบงก์ก็จะอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่สร้างภาระมากเกินไป”

“เหมือนทำย้อนทาง จากเดิมต้องเดินไปที่แบงก์ก่อน ซึ่งตอนนี้เรากำลังคุยกับแบงก์ออมสิน และแบงก์อื่น ๆ ให้มาร่วมกับโครงการนี้ เพื่อให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ ผู้ผ่านฝึกอาชีพยื่นเอกสารได้ที่สำนักงานเขต บสย. 11 แห่ง คาด 1-2 เดือนจะเริ่มโครงการได้”

ซื้อพอร์ตสินเชื่อบ้านหมื่นล้าน

ขณะที่ในบทบาทการขับเคลื่อนภารกิจของ บสก.นั้น นายบรรยงกล่าวว่า ปีนี้บอร์ดตั้งเป้าหมายการรับซื้อหนี้เข้าพอร์ตไว้กว่า 8,000 ล้านบาท แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิน 1 หมื่นล้านบาท เพราะปีที่แล้วก็ซื้อเข้ามา 1.2 หมื่นล้านบาท และผ่านมา 4-5 เดือน ซื้อหนี้เข้ามาแล้วราว 5,000 ล้านบาท ช่วงปลายปี ไตรมาส 3-4 น่าจะมีเข้ามาอีกมากพอสมควร เพราะเป็นช่วงที่แบงก์จะขายหนี้กันเยอะ ส่วนเป้าหมายการขายทรัพย์ออกไปอยู่ที่ 17,000 ล้านบาท

“สำหรับ บสก.เรากำลังจะปรับโครงสร้างการทำงาน โดยแยกหน่วยซ่อมบำรุง (รีโนเวต) กับฝ่ายขายออกจากกัน จากเดิมที่อยู่รวมกัน เพื่อให้หน่วยซ่อมบำรุงนี้รับผิดชอบผลิตโปรดักต์เพื่อให้พร้อมขายได้เร็ว เพราะหากทำช้าก็มีต้นทุนเพิ่มเรื่อย ๆ รวมถึงจะได้จำนวนที่มากขึ้นด้วย เนื่องจากบ้านมือสองต้องเร็ว ถูก ดี และได้จำนวนมาก โดยจะต้องรับประกันคุณภาพด้วย เพราะหน่วยซ่อมบำรุงจะมีพวกวิศวกร สถาปนิก ที่ควบคุมดูแล ตรวจสอบโครงสร้างให้ด้วย”

ช่วยคนต้องการมีบ้าน

นายบรรยงกล่าวว่า ส่วนการบริหารจัดการพอร์ตหนี้สินเชื่อบ้านที่ บสก.รับซื้อ นโยบายหลักคือช่วยเหลือคนที่ผิดนัดชำระหนี้บ้านโดยเฉพาะรายเล็ก รายกลาง เพราะมองว่าการผิดนัดชำระหนี้สินเชื่อบ้านแต่ละรายมีสาเหตุต่างกัน ซึ่ง บสก.จะเจรจาเงื่อนไขที่เหมาะกับแต่ละราย เช่น คนที่ไม่มีที่อยู่ ยังต้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิม บสก.ก็ต้องให้ผ่อนชำระเงินงวดที่น้อย ๆ ก่อน โดยไม่คิดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระในช่วง 3 ปีแรกเป็นอย่างน้อย

นอกจากนี้จะเปิดโอกาสให้คนที่ต้องการมีบ้านซื้อบ้านได้มากที่สุด ช่วงนี้ก็มีโปรโมชั่นขายบ้านมือสองราคาพิเศษ ลดสูงสุด 40% พร้อมฟรีค่าโอน แจกทองคำ ทุก ๆ 100 บาท จะหักไปบริจาคให้โรงพยาบาล 0.25 บาทด้วย

เปิดช่องให้เช่าซื้อ

ขณะที่ผู้ซื้อทรัพย์รายย่อยที่ซื้อบ้านมือสอง ประเภทคอนโดมิเนียม ราคา 3-5-7 แสนบาท ซึ่งอาจจะกู้แบงก์ได้ลำบาก ทาง บสก.ก็เปิดให้ผ่อนชำระกับ บสก.ได้ โดยไม่ต้องตรวจข้อมูลเครดิตบูโร เนื่องจากเป็นสัญญาเช่าซื้อ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยก็คิดไม่แพงต่ำสุด MLR-3% หรือปัจจุบันอยู่ที่ 3.25% ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้คนตัวเล็กตัวน้อยได้มีบ้านเป็นของตัวเอง

“ลูกค้าที่ผ่อนบ้านกับ บสก. ไม่ต้องเสียค่าประเมินราคา ค่าอากรเงินกู้ก็ไม่ต้องเสีย ถ้ากู้แบงก์จะต้องเสียค่าอากร มีค่าประกันอีก แต่ผ่อนกับเราไม่ใช่การกู้ เพราะเราไม่ได้ปล่อยเงินให้ ก็ให้ลูกค้าผ่อน พอผ่อนหมดก็โอนบ้านให้ ซึ่งลูกค้าที่ผ่อนกับ บสก.ไม่ค่อยมีปัญหาผ่อนไม่ตรง มีแค่ราว 1%” นายบรรยงกล่าว