หุ้นไทยบวกทะลุ 16 จุด อานิสงส์ “อีซีบี-เฟด” ผ่อนคลายนโยบายการเงิน

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยภายรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 18 มิ.ย.62 ว่า โมเมนตัมตลาดหุ้นมีการแกว่งขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นในช่วงภาคบ่ายที่แกว่งขึ้นค่อนข้างสูงส่งผลให้ดัชนีปิดบวกที่ดัชนี 1,683.60 จุด เพิ่มขึ้นกว่า 16.37 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.98% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 61,748.31 ล้านบาท

โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างประเทศ คือ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญณว่าจะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายขึ้น (Dovish) และมีการกล่าวถึงการทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหากมีความจำเป็น เนื่องจากที่ผ่านมาแม้จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงและมีการเข้าซื้อสินทรัพย์ แต่เศรษฐกิจยุโรปยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร ขณะที่ตลาดฯ คาดการณ์ว่าอีซีบีจะยังคงดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำไปจนถึงกลางปี 2563 ซึ่งเป็นผลบวกต่อการเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง

ด้านกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีในวันพรุ่งนี้ (19 มิ.ย.62) ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,670 จุด และแนวต้านไว้ระหว่าง 1,690-1,700 จุด โดยมีปัจจัยแวดล้อมที่ต้องติดตาม คือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม อย่างไรก็ตาม มุมมองอัตราดอกเบี้ย (Dot Plot) ในการประชุมครั้งนี้จะสะท้อนถึงแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งปีหลังได้ ส่วนปัจจัยในประเทศยังคงให้น้ำหนักกับการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าหลังการจัดตั้งจะมีการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจตามที่ได้หาเสียงไว้ในก่อนหน้านี้

ขณะที่กลยุทธ์การลงทุน เน้นหุ้นที่ได้รับปัจจัยเชิงบวกทั้งจากภายนอกและภายใน โดยหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจนอกประเทศ (Global Play) แนะนำ PTTEP ส่วนกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Play) แนะนำกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CPALL และ GLOBAL กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ SCCC และกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ ได้แก่ SAWAD และ JMT