ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ภายหลังนักลงทุนวิตกกังวลต่อประเด็นทางด้านการค้า

แฟ้มภาพ

ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2562 ค่าเงินบาทปิดตลาดเช้าวันนี้  (3/7) ที่ระดับ 30.58/60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดในวันอังคาร (2/7) ที่ระดับ 30.67/69 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังจากนักลงทุนมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับประเด็นทางด้านการค้าที่ยังคงรุนแรง และอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม ส่งผลให้มีแรงขายค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัยแทน โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากคำกล่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวคือการกระทำข้อตกลงใดใดที่จะเกิดขึ้นกับประเทศจีนนั้น สหรัฐจำเป็นต้องมีความได้เปรียบ สอดคล้องกับคำกล่าวของนายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าประจำทำเนียบขาวที่กล่าวว่า การที่สหรัฐยอมผ่อนปรนให้แก่รัฐบาลจีนในเรื่องบริษัทหัวเหว่ย ถือเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยภายในบริบทข้อตกลงการค้าขนาดใหญ่ อีกทั้งรัฐบาลสหรัฐจะยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับชาติพันธมิตร เพื่อรับประกันว่าชาติพันธมิตรจะไม่นำเทคโนโลยี 5G ของหัวเหว่ยมาใช้ นอกจากนี้นักลงทุนมองว่าจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่งก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงทางการค้าเช่นกัน นอกจากนี้ตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของเจพีมอร์แกนเผยลดลงต่ำสุดในรอบ 7 ปี ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของโลกหดตัวลงนับตั้งแต่ปี 2016 อีกทั้งยังคงมีความกังวลที่ว่า สหรัฐจะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปวงเงิน 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นมิโดยเป็นผลจากความขัดแย้งเรื่องเงินอุดหนุนบริษัทผู้ผลิตเครื่องบิน ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.53-30.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.54/56 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (3/7) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1293/95 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (2/7) ที่ระดับ 1.1308/11 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยค่าเงินยูโรได้รับแรงกดดันภายหลังสหภาพยุโรป (อียู) แถลงการณ์ว่า อียูเปิดโอกาสในการเจรจากับสหรัฐเรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับเงินอุดหนุนของบริษัทผู้ผลิตเครื่องบิน อีกทั้งอียูยังคงจัดเตรียมมาตรการตอบโต้สหรัฐ หลังจากสำนักงานของผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เพิ่มรายการสินค้าที่จะเก็บภาษีนำเข้า ส่วนประเด็นทางด้านการเมืองก็มีประเด็นที่ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ได้มีข้อตกลงกันว่าจะเลือกนางคริสติน ลาการ์ด จากฝรั่งเศสให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) คนใหม่ หลังจากหารือกันเป็นเวลานาน อย่างไรก็ดี ข้อตกลงดังกล่าวจะต้องรอการอนุมัตจากรัฐสภายุโรปก่อน ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1267-1.1294 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1285/89 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (3/7) เปิดตลาดที่ระดับ 107.55/57 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (2/7) ที่ระดับ 108.24/27 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ภายหลังสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ยังคงคลุมเครือประกอบกับความตึงเครียดทางการค้าที่สูงขึ้นระหว่างสหรัฐ-สหภาพยุโรป ทั้งนี้ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 107.52-107.92 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 107.72/74 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน มิ.ย.จาก ADP (3/7) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (3/7) ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือน พ.ค. (3/7) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน มิ.ย.จากมาร์กิต (3/7) ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย. (5/7)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.5/-2.25 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -3.5/-2.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ