นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ประธานนักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (11 ก.ค.) ที่ระดับ 30.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับ 30.81 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน โดยกรอบค่าเงินบาทวันนี้อยู่ที่ช่วง 30.60 – 30.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวหลักในตลาดเงิน แทบทุกสกุลแข็งค่าสวนเงินดอลลาร์ ล่าสุดทั้งรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เดือนมิถุนายน และการให้แถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ต่อสภาคองเกรส ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่านโยบายการเงินของสหรัฐฯจะต้องผ่อนคลายลง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
อย่างไรก็ดีล่าสุดตลาดมองว่ามีโอกาสถึง 3 ใน 4 ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% และ 1 ใน 4 ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งถัดไป จึงต้องระวังว่าเงินดอลลาร์อาจกลับตัวแข็งค่าอย่างรวดเร็วในช่วงปลายเดือนนี้ได้ ถ้าในท้ายที่สุดเฟดไม่สามารถลดดอกเบี้ยเร็วอย่างที่ตลาดหวังไว้
“ในคืนที่ผ่านมา แถลงการณ์ของประธานเฟดต่อสภาคองเกรสได้ส่งสัญญาณว่าเฟดพร้อมที่จะลดดอกเบี้ย เพื่อรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ท่ามกลางปัจจัยความเสี่ยงทั้งสงครามการค้าและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว มุมมองดังกล่าว ส่งผลให้นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ดัชนี S&P500 ปิดบวก 0.5% ทำสถิติจุดสูงสุดเป็นประวัตการณ์ (All-time High) ราคาทองคำดีดตัวขึ้นกว่า 1.5% สู่ระดับ 1418.1 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ก็พุ่งขึ้น 3.7% หลังได้รับแรงหนุนจากทั้งนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย และการที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยสต๊อกน้ำมันดิบคงคลังลดลง 9.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว”
นายจิติพล กล่าวด้วยว่า สำหรับวันนี้ ตลาดจะพุ่งความสนใจไปที่รายงานการประชุมธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB ที่คาดกันว่าจะเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้นเช่นกัน