นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ประธานนักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (22 ก.ค.) ที่ระดับ 30.84 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 30.78 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สำหรับกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 30.82-30.92 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
“ในสัปดาห์นี้ เงินดอลลาร์น่าจะแข็งค่ากลับขึ้นได้ จากแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เข้มงวดกว่าที่ตลาดมองไว้ (ลดดอกเบี้ย 0.25% ในวันที่ 31ก.ค.) ถ้าจีดีพีสหรัฐไตรมาสสองรายงานออกมาสูงกว่าที่คิด ขณะที่ค่าเงินฝั่งยุโรป ก็จะเข้าสู่ช่วงที่มีปัญหาการเมืองและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นด้วย ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนเงินบาทสัปดาห์นี้จะเริ่มลดลง เพราะราคาทองมีโอกาสพักฐานและภาพรวมการค้าไทยก็ดูจะชะลอตัวลง เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆในเอเชีย” นายจิติพลกล่าว
ส่วนกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 30.60-31.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
นายจิติพล กล่าวว่า สำหรับเศรษฐกิจทั่วโลกสัปดาห์นี้ ต้องติดตามนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ การประชุมธนาคารกลางยุโรป และการรายงานจีดีพีสหรัฐฯเริ่มต้นในวันอังคาร ความวุ่นวายในอังกฤษดูจะกลับมาอีกครั้ง ถ้านาย Boris Johnson ได้รับการเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากที่จะผลักดันให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลง (No Deal Brexit) ต่อมาในวันพฤหัสบดี คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะ“คง”อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Deposit Rate) ที่ระดับ -0.40% และมีโอกาสที่จะเซอร์ไพรซ์ตลาดด้วยการลดดอกเบี้ย นอกจากนี้เชื่อว่า ECB จะส่งสัญญาณว่านโยบายการเงินยุโรปยังสามารถผ่อนคลายได้ และพร้อมที่จะลดดอกเบี้ย หรือซื้อสินทรัพย์ (QE) เพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน
ท้ายที่สุดในวันศุกร์ คาดว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานการขยายตัวของเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 (ประมาณครั้งแรก) ที่ระดับ 1.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (ปรับเป็นรายปี) ซึ่งถือเป็นการชะลอตัวลงอย่างชัดเจนจากไตรมาสแรกเนื่องจากเป็นช่วงที่บริษัทในฝั่งสหรัฐฯ ลดการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมลง