ค่า​เงิน​บาท​ทรงตัว ตลาด​กังวล​นายกฯ​อังกฤษ​คนใหม่​ดัน​ “No Deal Brexit”

ค่า​เงิน​บาท​ทรงตัวที่​ระดับ 30.91  บาท​ต่อ​ดอลลาร์​  ตลาด​กังวล​นายกฯ​อังกฤษ​คนใหม่​ดัน​ “No Deal Brexit”  แนะ​จับตาต่างชาติ​กลับเข้ามา​ซื้อบอนด์​ไทย  หลังเทขายทำกำไรก่อนหน้านี้​

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ประธานนักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า​ ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้​ (24​ ก.ค.)​ ที่ระดับ 30.91 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน

ทั้งนี้​ ความเคลื่อนไหว​ตลาดเงินโลก เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักแตะจุดสูงสุดในรอบ 2สัปดาห์​ หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในทางกลับกัน ตลาดก็กังวลว่านาย Boris Johnson นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะผลักดันให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลง (No Deal Brexit)

โดยผู้ค้าในตลาดเงิน ซื้อขายกันอย่างเบาบางในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะถือดอลลาร์เป็นที่พักความเสี่ยง ประกอบกับราคาทองคำปรับตัวอ่อนค่าลง นักลงทุนเอเชียจึงกลับเข้าซื้อ ส่งผลให้มีแรงซื้อเงินดอลลาร์กลับขึ้นมา

“ในช่วงต่อไป ต้องจับตาทิศทางการซื้อขายบอนด์  (พันธบัตร)​ ของต่างชาติ แม้ในระยะสั้นเราจะเห็นแรงขายต่อเนื่องหลังธนาคาร​แห่ง​ประเทศไ​ทย​ (ธปท.)​ ออกนโยบายในเชิงสกัดเงินร้อน แต่เราเชื่อว่า ส่วนใหญ่เป็นการขายทำกำไรตราสารหนี้ระยะสั้นที่ผลตอบแทนปรับตัวลงต่ำแตะระดับดอกเบี้ยนโยบาย ในระยะยาวจึงต้องจับตาการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ​ (เฟด)​ เนื่องจากจะส่งผลให้เกิดความผันผวนของกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายมากขึ้น”  นายจิติพลกล่าว

สำหรับ​กรอบค่าเงินบาทวันนี้​อยู่​ที่​ 30.85-30.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​

นายจิติพล​ กล่าว่า​ ในคืนที่ผ่านมา ตลาดทุนทั่วโลกกลับเข้าโหมดเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) หลังสหรัฐฯ เตรียมเปิดการเจรจาการค้ากับจีน นอกจากนี้รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯก็ออกมาดีเกินคาด พร้อมกับช่วงเวลาที่สภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดาหนี้ (Debt Ceiling) ทำให้ ดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 0.7% ส่วน ดัชนี STOXX50 ของยุโรป พุ่งขึ้นกว่า 1.2% ด้วยความหวังว่าธนาคารกลางยุโรปจะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นเช่นกัน

เมื่อตลาดเปิดรับความเสี่ยง นักลงทุนก็ลดการถือสินทรัพย์ปลอดภัยลง กดดันอัตรา​ผลตอบแทน​พันธบัตร​ (บอนด์ยีลด์)​ สหรัฐฯอายุ10ปี ให้ปรับตัวขึ้น 3.1bps สู่ระดับ 2.08% ส่วนราคาทองคำก็ปรับตัวลง 0.5% แตะระดับ 1,417.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ IMF ได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ในปีนี้ และปีหน้าลง 0.1% สู่ระดับ 3.2% สำหรับปีนี้ และ 3.5% ในปีหน้า จากภาวะสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ และปัญหาการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

คลิกอ่านเพิ่มเติม…“บอริส จอห์นสัน” ชนะขาดลอยคว้าตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ”