“สรรพากร” ชี้เก็บภาษี Capital Gain หุ้น ไม่ใช่โจทย์เร่งด่วน ยืนยัน LTF จบปีนี้

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรณีมีการมองว่า หลังมีแนวทางที่จะเก็บภาษีการลงทุนตราสารหนี้ในกองทุนรวมไป หากจะให้เป็นธรรมต้องเก็บภาษีส่วนต่างกำไรจากการซื้อขายหุ้น (แคปิตอลเกน) ด้วยนั้น เรื่องนี้ทางกรมสรรพากรก็มีการศึกษาอยู่เช่นกัน โดยต้องดูภาพรวม

“มีข้อเสนอจากหลาย ๆ นักวิชาการ ว่าจะถ้าจะลดความเหลื่อมล้ำของประเทศไทย ต้องเก็บภาษีแคปิตอลเกนนี้ โดยทางกรมสรรพากรกำลังนำข้อเสนอเหล่านี้มาศึกษาดู ซึ่งก็มี 2 มุม คือ ตลาดทุนตอนนี้เป็นแหล่งระดมทุนที่มีประสิทธิภาพ หากเราไปเก็บภาษีตอนนี้จะกระทบการระดมทุนให้มีประสิทธิภาพน้อยลงหรือไม่ ตรงนี้ต้องไปดู ขณะเดียวกันอีกมุมก็คือ ถ้าเก็บรายได้ก็จะเพิ่มขึ้น” นายเอกนิติกล่าว

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว ต้องขึ้นกับการตัดสินใจระดับนโยบาย และเป็นเรื่องที่อ่อนไหว ซึ่งตนเองคิดว่าการเก็บภาษีแคปิตอลเกนดังกล่าว ยังไม่ใช่โจทย์เร่งด่วนที่ต้องทำในขณะนี้ เพียงแต่ก็อาจจะต้องศึกษาไว้

“อย่างกรณี LTF ผลศึกษาก็ชัดเจนว่า คนที่ได้ประโยชน์เป็นกลุ่มคนระดับบน แต่จะทำอย่างไรต่อไปก็ต้องขึ้นกับนโยบาย โดยในวันนี้เรายังยืนยันตามแผนพัฒนาตลาดทุน ก็คือให้จบสิทธิประโยชน์ภาษีในปีนี้” นายเอกนิติกล่าว

ส่วนนโยบายการปรับโครงสร้างภาษีนั้น นายเอกนิติกล่าวว่า ขณะนี้นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้มอบหมายทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พิจารณา เพราะเป็นการพิจารณาในภาพรวมทั้งหมด โดยในส่วนของกรมสรรพากรก็กำลังศึกษา ซึ่งในเรื่องการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ต้องขึ้นกับว่า ทาง สศค.จะตกผลึกให้ดำเนินการในรูปแบบใด

“ถ้า สศค.ตกผลึกในเชิงนโยบายแล้ว จึงจะส่งมาให้เราคำนวณว่าจะทำแบบไหนแน่ ซึ่งการลดภาษี ไม่ว่ารูปแบบใด ย่อมมีผลกระทบต่อรายได้แน่นอน โดยต้องไม่ลืมว่า สัดส่วนรายได้ที่กรมสรรพากรจัดเก็บเป็นสัดส่วนถึง 70-80% ของรายได้ประเทศทั้งหมด ดังนั้นหากรายได้หายไปก็อาจกระทบเสถียรภาพการคลังได้ ก็ต้องรอนโยบายรัฐบาลว่าจะทำอย่างไรต่อไป” นายเอกนิติกล่าว