ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,699.75 จุด เคลื่อนไหวในแดนลบที่ระดับ 1,678.33 จุด ปรับลดลง 21.42 จุด หรือ 1.26% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 1,681.51 จุด ทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 1,675.58 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 20,561.39 ล้านบาท
นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปรับลดลงในช่วงเปิดตลาดภาคเช้า เป็นผลจากการที่สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีจีนล็อตสุดท้าย 10% หรือวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ รวมถึงปัจจัยในประเทศจากเหตุระเบิด 3 จุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องติดตามคำชี้แจงจากรัฐบาลต่อไป
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่มีผลกับตลาดหุ้นยังให้น้ำหนักกับเรื่องของสงครามการค้าฯ เป็นหลัก โดยชี้ว่าเป็นปัจจัยที่เหนือความคาดหมาย เนื่องจากการเก็บภาษีก้อนสุดท้ายเป็นภาษีที่เกี่ยวของกับสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Goods) เช่น ไอโฟน (iPhone) ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าหมวดดังกล่าวในสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
“จากเดิมที่ตลาดเคยมองว่าเศรษฐกิจปี 2562 ได้ผ่านจุดต่ำสุดของไปแล้ว เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ เช่นนี้จะส่งผลกระทบให้คาดการณ์การส่งออกและจีดีพีโลกปี 2562 มีโอกาสปรับลดลง (downside) ได้อีก โดยส่งออกปีนี้มีโอกาสลดต่ำกว่า 0% ขณะที่จีดีพีคาดว่าจะเติบโตต่ำกว่า 3%” นายสุนทรกล่าว
