– ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลงราวร้อยละ 5 เนื่องจากได้รับปัจจัยกดดันหลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 2 ส.ค. 62 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับคาดการณ์ หลังจากปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง 7 สัปดาห์ แต่ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ทั้งนี้ ปริมาณน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 4.4 และ 1.5 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ
– ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันดิบโลกที่มีแนวโน้มอ่อนตัว เนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศจะตั้งกำแพงภาษีมูลค่าสามแสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มเติมกับสินค้านำเข้าจากจีน ภายในวันที่ 1 ก.ย. 62
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
+ EIA ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในปี 62 จาก 1.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 1.28 ล้านบาร์เรล ทำให้คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในปี 62 อยู่ที่ระดับ 12.27 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกได้รับผลกระทบจากเฮอร์ริเคน Barry เมื่อเดือนที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในภูมิภาค ประกอบกับอุปทานที่ตึงตัว
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นหลังโรงกลั่นเสร็จสิ้นการปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลยังมีแรงหนุนจากอุปสงค์จากแอฟริกาใต้