ธปท.เพิ่มวงเงินคนไทยขนเงินลงทุนต่างประเทศสูง 1 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมเปิดทางร้านแลกเปลี่ยนทำการซื้อ-ขายแลกเงินสกุล ตปท.ผ่านแบงก์ต่างประเทศ และ MC ตปท. ฟาก ก.ล.ต.เผยยอดคนไทยลงทุนผ่าน บล.-บลจ. ราว 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ชี้เทรนด์คนไทยยังต้องการออกไปลงทุนนอกประเทศต่อเนื่อง หวังหาผลตอบแทนสูง
นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์ภายใต้การปฏิรูปกฎเกณฑ์ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนไทยส่งเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงเพิ่มความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเงินตราต่างประเทศ โดยขยายวงเงินจัดสรรสำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ สำหรับกลุ่มผู้ลงทุนภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และบุคคลรายย่อยที่ลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศผ่านตัวแทนการลงทุนในไทย เช่น กองทุนรวม และบริษัทหลักทรัพย์ จากเดิมวงเงินรวม 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มเป็น 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนไทยที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธปท. กล่าวว่า การผ่อนคลายวงเงินรวม เป็นการเพิ่มความคล่องตัวให้กับ ก.ล.ต. ในการจัดสรรวงเงินให้กับสถาบันตัวกลางที่มาขอวงเงินเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศ เช่น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เป็นต้น
นอกจากนี้ ธปท.ยังผ่อนคลายหลักเกณฑ์เกี่ยวกับผู้ประกอบ (Money Changer : MC) โดยให้ MC สามารถซื้อ ขาย หรือแลกเปลี่ยนธนบัตรต่างประเทศกับธนาคารในต่างประเทศ หรือผู้ประกอบธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินในต่างประเทศได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับภาคธุรกิจ
ทั้งนี้ การผ่อนคลายดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตรา สามารถแลกธนบัตรต่างประเทศจาก MC ต่างประเทศ หรือธนาคารต่างประเทศได้ จากเดิมที่อนุญาตให้แลกเปลี่ยนเงินตราได้เฉพาะกับธนาคารพาณิชย์ และ MC ในประเทศเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถให้บริการรับแลกเงินสกุลเพื่อนบ้าน เช่น สกุลเงินกีบ ที่คนไทยได้รับชำระจากการขายของให้ประเทศลาว สามารถนำมาขายแลกกับ MC ได้คล่องตัวขึ้น โดยจะมีผลบังคับใช้ช่วงกลางเดือนกันยายนนี้
นายปริย เตชะมวลไววิทย์ ฝ่ายสื่อสารองค์กรและส่งเสริมความรู้ผู้ลงทุน ก.ล.ต. กล่าวว่า บลจ.และตัวแทนลงทุนรายย่อยมีการลงทุนในต่างประเทศเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยตลอด โดยเฉพาะยอดการลงทุนของกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีมูลค่าสูงประมาณ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ณ 4 กันยายน 2560) ส่วนหนึ่งที่มีการออกไปลงทุนมาก เนื่องจากผู้ลงทุนไทยอยู่ในภาวะแสวงหาแหล่งการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี (search for yields) จึงเกิดความต้องการลงทุนที่หลากหลายขึ้น
“ดังนั้นทางการขยายวงเงินดังกล่าวก็จะยิ่งสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจตัวกลาง เช่น บลจ. มีโอกาสที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่หลากหลายขึ้นให้ผู้ลงทุนมากขึ้น และมีโอกาสในการเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้ลงทุนได้มากยิ่งขึ้น” นายปริยกล่าว