ศก.วูบ! สินเชื่อแบงก์ไตรมาส2 โตลดลง เหตุแบงก์คุมเข้ม-มาตรการ ธปท.

ธปท. เผยสินเชื่อแบงก์ไตรมาส 2 โตลดลงเหลือ 4.2% จาก 5.6% ไตรมาสก่อน ชี้ชะลอตัวตามภาวะ เศรษฐกิจ ส่วนเอ็นพีแอลทรงตัว เหตุแบงก์เข้มปล่อยกู้-คุมคุณภาพสินเชื่อ มาตรการLTV ของแบงก์ชาติ หันตัดหนี้สูญ/ปรับโครงสร้างหนี้มากขึ้น

นายธาริฑธิ์ ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยงสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2 ปี 2562 ว่า ระบบธนาคารพาณิชย์ มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุนและเงินสำรองอยู่ในระดับสูง สามารถรองรับความท้าทายในภาวะที่เศรษฐกิจเติบโตในอัตราที่ลดลง ทั้งนี้ ผลประกอบการของระบบธนาคารพาณิชย์ปรับดีขึ้น

โดยระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนทั้งสิ้น 2,637 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการจัดสรรกำไรเข้าเป็นเงินกองทุนและการออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิของธนาคารพาณิชย์ไทยบางแห่ง ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 18.5 และมีเงินสำรองอยู่ที่ 680.6 พันล้านบาท โดยสัดส่วนเงินสำรองที่มีต่อเงินสำรองพึงกันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 195.6 และอัตราส่วนสินทรัพย์
สภาพคล่อง เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความรุนแรง (Liquidity Coverage Ratio: LCR) อยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 180.0

ธนาคารแห่ง สินเชื่อแบงก์ไตรมาส 2 ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ลดลงจากร้อยละ 5.6 ในไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ 4.2 สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยสินเชื่อธุรกิจ (ร้อยละ 65.1 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวร้อยละ 1.7 ซึ่งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ (ไม่รวมธุรกิจการเงิน) เติบโตในอัตราที่ลดลงจากร้อยละ 4.4 ในไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ 2.6 จากการชำระคืนหนี้ของลูกหนี้ในภาคอุตสาหกรรม พาณิชย์ และบริการ ขณะที่สินเชื่อธุรกิจในภาคสาธารณูปโภคและภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

ส่วนสินเชื่อธุรกิจ SME (ไม่รวมธุรกิจการเงิน) หดตัวร้อยละ 0.1 จากที่ขยายตัวร้อยละ 1.5 ในไตรมาสก่อน โดยเป็นการลดลงตามภาวะเศรษฐกิจและการคืนหนี้ของ SME รายใหญ่ ซึ่งนำเงินจากการออกหุ้นกู้มาทยอยชำระหนี้ ด้านสินเชื่ออุปโภคบริโภค (ร้อยละ 34.9 ของสินเชื่อรวม) เติบโตลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 10.1 ในไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ 9.2 โดยหลักมาจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เติบโตลดลง หลังมีการเร่งปล่อยสินเชื่อ
ในช่วงก่อนมาตรการ LTV มีผลบังคับใช้และสินเชื่อรถยนต์ที่เติบโตลดลงตามยอดขายรถยนต์ที่เริ่มชะลอตัว ขณะที่สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัวสูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดสินเชื่อรายย่อยของสถาบันการเงิน

นายธาริฑธิ์ กล่าวอีกว่า ในด้านคุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ในภาพรวมมีสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ต่อสินเชื่อรวมทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.95 โดยยอดคงค้าง NPL อยู่ที่ 450.6 พันล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 3.3 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการตัดหนี้สูญและการปรับโครงสร้างหนี้ ขณะที่สัดส่วนสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ (Special Mention: SM) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.56 ในไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ 2.74 ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 ปี 2562 ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 6.08 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่สำคัญมาจากเงินปันผลของบริษัทในเครือที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายกันสำรองที่ลดลง สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อยจากค่านายหน้าขายหลักทรัพย์ค่านายหน้าขายประกันและค่าธรรมเนียมการโอนเงิน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Return on Asset: ROA) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.20 ในไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ 1.26 ทั้งนี้ อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ดอกเบี้ยเฉลี่ย (Net Interest Margin : NIM) ลดลงจากร้อยละ 2.82 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.75