เงิน​บาทเปิดอ่อนค่าเล็กน้อยที่ 30.83 บ./ดอลลาร์​ เคลื่อนไหว​กรอบแคบ

แฟ้มภาพ

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ประธานนักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า​ ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้​ (15​ ส.ค.)​ ที่ระดับ 30.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​ อ่อนค่าจากช่วงสิ้นวันทำการก่อนหน้าที่ระดับ 30.81 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​

โดยการเคลื่อนไหวช่วงนี้เป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากเงินบาทไม่ได้เป็นศูนย์กลางของประเด็นเศรษฐกิจและการค้าที่กำลังมีปัญหา นอกจากนี้ก็มีแรงซื้อขายผสมผสานในระดับใกล้เคียงกัน ทำให้เงินบาทดูเหมือนไม่มีการเปลี่ยนแปลง

“อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่านักลงทุนทั่วโลกจัดการลงทุนในไทย และเงินบาทอยู่ในกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยง (Risky Asset) จึงมีโอกาสเผชิญกับแรงขายในช่วงเช้า แต่ในช่วงค่ำ ก็อาจมีแรงหนุนจากราคาทองที่ปรับตัวสูงขึ้นดึงให้เงินบาทไม่อ่อนค่าเร็วเมื่อเทียบกับสกุลเงินเอเชียอื่นอยู่ด้วย” ด​ร.จิติพลกล่าว​

สำหรับ​กรอบค่าเงินบาทวันนี้​อยู่​ที่​ 30.77-30.87 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​ ดร.จิติพล​ กล่าวอีกว่า​ ในคืนที่ผ่านมา ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่ถดถอย (Recession) จากสัญญาณ Inverted Yield Curve ปกคลุมทั่วตลาดเมื่อบอนด์ยีลด์หรัฐฯอายุ10ปี และ 2ปีซื้อขายที่ระดับ 1.58% เท่ากัน บีบให้ตลาดทุนเข้าสู่ภาวะปิดรับความเสี่ยงอย่างหนัก (Risk-Off) ดัชนีหุ้นในฝั่งตะวันตกทั้ง S&P500, STOXX50, และ FTSE100 ดิ่งลง 2.9%, 2.0%, และ 1.4% ตามลำดับ

ขณะเดียวกัน ยอดสต็อกน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ (Crude Oil Inventories) กลับเพิ่มขึ้น 1.6ล้านบาร์เรล ทุบราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลงถึง 3.4% กดดันให้นักลงทุนต้องย้ายเงินเข้าพักในสินทรัพย์ปลอดภัย เงินเยนญี่ปุ่นจึงแข็งค่าขึ้น 0.7% พร้อมกับราคาทองคำปรับตัวบวก 0.9% แตะระดับ 1,514 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นอกเหนือจากนั้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลกล่าสุดก็ไม่แข็งแรง เศรษฐกิจจีนในเดือนกรกฎาคม แย่ลงอย่างชัดเจนในทุกด้าน โดยสำนักงานสถิติแห่ชาติ รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เติบโตเพียง 7.6% ต่ำที่สุดในรอบสี่เดือน ส่วนยอดการผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ก็เพิ่มขึ้นเพียง 4.8% ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2001

ซ้ำด้วยรายงานเศรษฐกิจเยอรมนีไตรมาส 2 ที่หดตัวจากไตรมาสก่อน 0.1% ทำให้นักลงทุนทั่วโลกกังวลกับสัญญาณเตือนความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยที่ส่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ