ธปท. แนะปฏิรูปศก.ระยะยาวมากกว่าเน้นเติบโตระยะสั้น ชี้เศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้-ระบบการเงินเข้มแข็ง

วิรไท สันติประภพ
แฟ้มภาพ

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมสนทนาในหัวข้อ “รับมืออย่างไรในโลกที่ไม่แน่นอน” ในงานสัมมนาวิชาการ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2562 “โลกเปลี่ยน อีสานแลนหัน เท่าทันการเปลี่ยนแปลง” เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2562 ณ จ.ขอนแก่น

โดยระบุว่า เศรษฐกิจโลกมีความเปราะบางมากขึ้น จากปัจจัยหลัก คือ 1) การกีดกันทางการค้าที่รุนแรงขึ้น (Trade War) 2) การถอนตัวของสหราชอาณาจักรจากสหภาพยุโรป (Brexit) และ 3) บรรยากาศการเมืองระหว่างประเทศที่ไม่แน่นอน (Geopolitics) ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยชะลอผ่านการส่งออกที่ลดลง ซึ่งจะกระทบต่อตลาดแรงงานตลอดจนการบริโภคภายในประเทศ

อีกทั้งความไม่แน่นอนด้านเสถียรภาพในตลาดเงินและตลาดทุนที่มีมากขึ้น ซึ่งทาง ธปท. ได้ควบคุมดูแลความผันผวนดังกล่าว และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการป้องกันความเสี่ยงผ่านเครื่องมือต่างๆ ได้แก่ ส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นและการกระจายความเสี่ยงมากขึ้น

สำหรับเศรษฐกิจไทยในอนาคตยังสามารถเติบโตได้ เนื่องจากเสถียรภาพด้านต่างประเทศยังอยู่ในระดับสูง รวมทั้งการพึ่งพาเงินตราจากต่างประเทศน้อยและระบบการเงินไทยยังคงเข้มแข็ง

อย่างไรก็ดี โจทย์ที่สำคัญมากกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจคือ การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ทั้งในด้านเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้น สังคมผู้อายุ และธุรกิจเกี่ยวกับความยั่งยืน ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ทุกภาคส่วนควรให้ความร่วมมือคือ การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะยาวมากกว่าการเติบโตในระยะสั้น