ราคาทองสุดผันผวน! วันเดียวปรับขึ้น-ลง 7 รอบ ดันรูปพรรณขายออกยืนที่บาทละ 22,650 บาท

แฟ้มภาพ

วันที่ 26 สิงหาคม 2562 สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซิ้อขายราคาทองคำในประเทศ วันนี้ ดังนี้(ตามตาราง) โดยตลอดทั้งวันราคาทองปรับขึ้นลงรวม 7 ครั้ง โดยปรับขึ้น3 ครั้ง รวมปรับขึ้นบาทละ 300 บาท และปรับลง4ครั้ง รวมปรับลงบาทละ 250 บาท ทำให้เบ็ดเสร็จทั้งวันราคาทองคำปรับขึ้นบาทละ 100บาท และทำให้ราคาทองคำแท่งขายออกอยู่ที่บาทละ 22,150 บาท ส่วนทองรูปพรรณขายออกบาทละ 22,650 บาท

ช่วงเวลา ทองแท่ง ทองรูปพรรณ
เวลา ครั้งที่ รับซื้อ (บาท) ขายออก (บาท) รับซื้อ (บาท) ขายออก (บาท) Gold Spot Baht / US$ ขึ้น / ลง
26/08/2562 16:07 7 22,050.00 22,150.00 21,648.48 22,650.00 1,529.00 30.61 50
26/08/2562 15:45 6 22,000.00 22,100.00 21,603.00 22,600.00 1,525.00 30.62 -50
26/08/2562 14:18 5 22,050.00 22,150.00 21,648.48 22,650.00 1,530.50 30.59 -50
26/08/2562 14:08 4 22,100.00 22,200.00 21,709.12 22,700.00 1,534.00 30.58 50
26/08/2562 14:04 3 22,050.00 22,150.00 21,648.48 22,650.00 1,530.00 30.59 -100
26/08/2562 14:02 2 22,150.00 22,250.00 21,754.60 22,750.00 1,535.00 30.59 -50
26/08/2562 09:27 1 22,200.00 22,300.00 21,800.08 22,800.00 1,542.50 30.61 250

ทางด้านบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำ วันที่ 26 ส.ค. 2562 ว่าราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาทะยานขึ้น 28.94 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก หลังจากจีนประกาศเก็บภาษีนำเข้า 5-10%ต่อสินค้าสหรัฐในวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ จีนจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐ และเก็บภาษี 5% ต่อชิ้นส่วนรถยนต์สหรัฐ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ธ.ค. ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ตอบโต้อย่างทันควัน ด้วยการทวีตข้อความสั่งให้ บริษัทสหรัฐรีบถอนตัวออกจากจีนโดยทันทีและให้กลับมาผลิตสินค้าในสหรัฐ ไม่เพียงแค่นั้นปธน.ทรัมป์ ยังประกาศจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มอีก 5% บนสินค้าจีนวงเงิน 5.5 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้สินค้าจีนวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์จะถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากเดิม 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ 1 ต.ค.นี้

ขณะที่สินค้าจีนส่วนที่เหลืออีก 3 แสนล้านดอลลาร์ จะถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากเดิมที่ 10% โดยจะมีผลบังคับใช้ 1 ก.ย.นี้ เรียกได้ว่าสงครามการค้าที่ดุเดือดระหว่างจีนกับสหรัฐได้กดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง พร้อมกับกระตุ้นแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยงทำให้ทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุน ในส่วนของสุนทรพจน์นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แม้ไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก แต่การที่นายพาวเวลระบุว่า จะดำเนินการตามความเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจพร้อมระบุว่ามีความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญทั้งทางเศรษฐกิจและทางภูมิรัฐศาสตร์ นั่นถือเป็นถ้อยแถลงที่เอนเอียงไปในเชิงพิราบ จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนราคาทองคำ ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเกือบ 2% เมื่อวันวันศุกร์ที่ผ่านมา