ดีน แอนด์ เดลูก้า เอเชีย (ประเทศไทย) ออกหุ้นกู้มีประกันแบบระยะยาว อายุ 2 ปี มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท พร้อมแต่งตั้งเอเชีย พลัส และเออีซี เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย เริ่มเปิดจองซื้อปลายเดือนก.ย.62 พร้อมแต่งตั้ง “บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป” เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อหาผู้ลงทุนในเพซ จัดโครงสร้างและขยาย ดีน แอนด์ เดลูก้า เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเตรียมเข้าตลาดหุ้นภายใน 2 ปี ด้าน “บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป” และกลุ่มลูกค้ารายใหญ่มั่นใจในอนาคตบริษัทเข้าถือหุ้นเพซจำนวน 950 ล้านหุ้น รวมถือไม่เกินร้อยละ 10
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินการออกหุ้นกู้มีประกันระยะยาว อายุ 2 ปี จำนวนรวม 2 ล้านหน่วย มูลค่าหุ้นกู้รวม 2 พันล้านบาท กำหนดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับร้อยละ 7.5 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน คาดว่าจะเสนอขายในวันที่ 30 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2562 นี้ โดยได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย
สำหรับวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ คือ
1) เพซจะนำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งไปโอนทรัพย์สินทางปัญญา(Trademark) ในแบรนด์ ดีน แอนด์ เดลูก้า จาก บริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า อิงค์ (DEAN & DELUCA Inc) เพื่อมาเป็นของ ดีน แอนด์ เดลูก้า เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงนำเงินมาใช้ในการลงทุนขยายร้านดีน แอนด์ เดลูก้า ในประเทศไทย ที่กำลังเติบโตขึ้นมาก จากการที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจในแบรนด์ ซึ่งเห็นได้จากการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงยอดขายในเอเชียและประเทศไทยที่เติบโตขึ้นอย่างมากเพื่อเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเร็วๆนี้ และบริษัทมั่นใจว่า ดีน แอนด์ เดลูก้า เป็นแบรนด์ที่มีศักยภาพในการขยายตัวสูง การได้มาซึ่งทรัพย์สินทางปัญญา จาก ดีน แอนด์ เดลูก้า อิงค์ จะทำให้เกิดความคล่องตัวและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
2) ใช้ในการดำเนินงานของบริษัท ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และชำระคืนหุ้นกู้เพซก่อนครบกำหนดชำระในต้นปี 2563
นายสรพจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK บริษัทที่ปรึกษาทางด้านวาณิชธนกิจ อสังหาริมทรัพย์ และบริหารจัดการเงินทุน ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในดีลด้านการเงินสำคัญๆหลากหลายของประเทศไทย สนใจเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเพซฯ โดยกลุ่ม นายชาญ บูลกุล ประธานกรรมการบริหาร พร้อมกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ของบรุ๊คเคอร์ กรุ๊ปฯ ขอเข้าซื้อหุ้นจาก นาย สรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเพซฯ จำนวน 950 ล้านหุ้น นับเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
โดยเหตุผลที่บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สนใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเพซ เนื่องจากมีความเชื่อมั่นว่าเพซเป็นบริษัทที่ดี มีศักยภาพในการเจริญเติบโตสูง มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และมีความโดดเด่นในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และยังมีแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นที่ชื่นชอบไปทั่วโลกอย่าง ดีน แอนด์ เดลูก้า ที่สามารถทำรายได้ต่อเนื่องเพื่อเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
แต่ที่ผ่านมาความไม่แน่นอนของตลาดฟู้ดรีเทล และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะในตลาดอเมริกา ทำให้บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายทางด้านการเงิน อย่างไรก็ตาม ทางบรุ๊คเคอร์ กรุ๊ปฯ ซึ่งมีความชำนาญทางด้านการปรับโครงสร้างทางการเงินจะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพ และทำให้เพซสามารถผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ไปได้ จึงตัดสินใจเข้าถือหุ้นในครั้งนี้ และในอนาคตทางบรุ๊คเคอร์กรุ๊ปฯ คิดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเข้าลงทุนกับเพซเพิ่มเติมอีก
นอกจากการเข้าถือหุ้นกับทางบริษัทแล้ว เพซยังได้แต่งตั้ง บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ปฯ เข้าเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทฯ โดยภารกิจหลักของ บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ปฯ คือ 1. การจัดหาหุ้นส่วนทางธุรกิจหรือผู้สนใจลงทุนกับเพซ 2. ดำเนินการจัดโครงสร้างธุรกิจและโครงสร้างองค์กรเพื่อขยายธุรกิจ ดีน แอนด์ เดลูก้า เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้เป็นธุรกิจที่ยั่งยืนและมีรายได้ที่มั่นคง เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าตลาดหุ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า
ปัจจุบัน ดีน แอนด์ เดลูก้า มีสาขาทั้งหมด 76 สาขาในเอเชีย (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2562) ประกอบด้วยสาขาในประเทศญี่ปุ่น 49 สาขา, สิงคโปร์ 3 สาขา, ฟิลิปปินส์ 3 สาขา, เกาหลีใต้ 2 สาขา, ฮ่องกง 2 สาขา, คูเวต 2 สาขา, มาเก๊า 1 สาขา, บาร์เรน 1 สาขา, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 สาขา, และสาขาในประเทศไทยทั้งหมด 12 สาขา โดยประกอบไปด้วยสาขาที่เป็นคาเฟ่และร้านอาหาร อาทิ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่, เอ็มควอเทียร์, เดอะคริสตัล รามอินทรา เป็นต้น และบริษัทยังมีแผนจะเปิดสาขาใหม่อีก 4 สาขาภายในปลายปี 2562 โดยแบ่งเป็น 3 สาขาในกรุงเทพฯ และอีก1 สาขาที่ภูเก็ต
โดยล่าสุด เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 ดีน แอนด์ เดลูก้า ได้เซ็นสัญญากับบริษัท Lagardère Travel Retail ให้เอ็กซ์คลูซีฟแฟรนไชส์เพื่อดำเนินการขยายร้าน ดีน แอนด์ เดลูก้า ในจุด Travel Retail ทั่วโลก เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยเริ่มจาก 2 สาขาแรกที่สนามบินนานาชาติ ฮ่องกง ซึ่งได้เปิดให้บริการเมื่อต้นเดือนกันยายน 2561 และจะทยอยเปิดเพิ่มขึ้นอีกภายในปีนี้
สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบัน เพซ มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างรอรับรู้รายได้ทั้งหมด 4 โครงการ ซึ่งมีมูลค่าแบ็คล็อครวมประมาณ 9 พันล้านบาท และมีอสังหาริมทรัพย์พร้อมขายมูลค่ารวมประมาณ 7 พันล้านบาท ได้แก่
1) เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ในส่วนที่บริษัทฯ ขายไปก่อนหน้านี้ มียอดแบ็คล็อครอโอน 876 ล้านบาท
2) โครงการมหาสมุทร วิลล่า มียอดแบ็คล็อค 354 ล้านบาท และมีวิลล่าพร้อมขายมูลค่าประมาณ 3.39 พันล้านบาท
3) โครงการนิมิต หลังสวน มียอดขายแล้วกว่าร้อยละ 90 เป็นยอดแบ็คล็อคคิดเป็นมูลค่า 6.91 พันล้านบาท และห้องชุดรอขายมูลค่าประมาณ 1.13 พันล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถโอนเพื่อรับรู้รายได้ภายในปี 2563
4) โครงการ วินด์เชลล์ นราธิวาส มียอดขายแล้วกว่าร้อยละ 30 มีแบ็คล็อคมูลค่า 792 ล้านบาท และมีห้องชุดรอขายอีกมูลค่าประมาณ 2.21 พันล้านบาท มีความคืบหน้าก่อสร้างแล้วกว่าร้อยละ 90 และคาดว่าจะสามารถโอนเพื่อรับรู้รายได้ภายในปี 2562
เกี่ยวกับดีน แอนด์ เดลูก้า
ดีน แอนด์ เดลูก้า ก่อตั้งเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2520 ที่ย่านโซโห นิวยอร์ค ซึ่งเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วที่ ดีน แอนด์ เดลูก้า ได้ปฏิบัติตามพันธกิจในการเสาะหาผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมเพื่อการทำอาหาร การรับประทานอาหาร และความเพลิดเพลิน เรารังสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพหลากหลายชนิดจากทุกมุมโลกเสมอมา ปัจจุบัน ดีน แอนด์ เดลูก้า มีสาขาอยู่ในสหรัฐอเมริกาและฮาวาย ไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวท ฟิลิปปินส์ บาห์เรน มาเก๊า ฮ่องกง และสิงคโปร์ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.deandeluca.com