“สรรพากร” หนุนกองทุนใหม่แทน LTF เน้นลดเหลื่อมล้ำ-ออมยาว

“เอกนิติ” อธิบดีกรมสรรพากร หนุนตั้งกองทุนใหม่แทน LTF เร่งศึกษาผลกระทบ-ข้อเสนอที่ดีกว่ากองเดิม หวังแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ-หนุนการออมระยะยาว ตอบโจทย์สังคมสูงวัยได้จริง

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยถึงกรณีกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ที่มาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้ลงทุนจะสิ้นสุดลงในปี 2562 นี้ว่า กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการศึกษาถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบกองทุน LTF ใหม่ โดยมองว่ากองทุนรูปแบบเดิมยังไม่ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากผลประโยชน์ส่วนใหญ่ตกอยู่กับกลุ่มผู้มีรายได้สูง ขณะที่ในส่วนของกองทุน ESG (เน้นการลงทุนอย่างมีธรรมาภิบาล) ที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เสนอเข้ามา เบื้องต้นมองว่าสามารถแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำได้ดีกว่ากองทุน LTF รูปแบบเดิม

“ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาผลกระทบจากกองทุน LTF รูปแบบใหม่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง รวมถึงกำลังเพิ่มเติมว่ากองทุนรูปแบบใหม่จะสามารถให้ข้อเสนอที่ดีกว่าปัจจุบันได้หรือไม่ โดยเราต้องการให้กองทุน LTF เข้ามาตอบโจทย์ในการที่จะไม่บิดเบือนตลาด ไม่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ และจะต้องตอบโจทย์โครงสร้างการออมระยะยาวอีกด้วย เพื่อให้การออมระยะยาวสามารถตอบโจทย์สังคมสูงวัยได้จริงต่อไป เช่น การขยายการลงทุนใน LTF ให้นานกว่า 7 ปี” นายเอกนิติกล่าว

ทั้งนี้ ในที่ประชุมโครงสร้างภาษีเมื่อวันที่ 30 ส.ค.62 ที่ผ่านมา ชี้ว่าสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลภาพรวมโครงสร้างทางภาษี ขณะที่กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และกรมสรรพากร จะเป็นผู้รับผิดชอบในการเข้าไปดูแลข้อเสนอทางภาษีต่างๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กรมสรรพากรพยายามผลักดันในปัจจุบันคือ การลดความเหลื่อมล้ำด้านภาษีตามยุทธศาสตร์รัฐบาล เช่น การปรับปรุงการลดหย่อนภาษีที่เอื้อให้ผู้มีรายได้สูง เป็นต้น