ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ประธานนักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุนธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (6 ก.ย.) ที่ระดับ 30.67 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ กรอบค่าเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 30.62-30.72 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
โดยคืนที่ผ่านมาดัชนี S&P500 ของสหรัฐและดัชนี STOXX50 ของยุโรปปรับตัวขึ้น 1.3% และ 1.0% เนื่องจากนักลงทุนกลับมามีความหวังว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะเกิดขึ้นได้ในเดือนตุลาคม นอกจากนี้แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯก็แข็งแกร่งมาก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ล่าสุดดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (ISM Services PMI) ประจำเดือนสิงหาคมของสหรัฐ พลิกตัวขึ้น 2.7 จุดแตะระดับ 56.4 จุดยอดสั่งซื้อสินค้าสำหรับโรงงาน (Factory Orders) ก็เพิ่มขึ้น 1.4% จากเดือนก่อนในขณะเดียวกันการจ้างงานภาคเอกชนซึ่งสำรวจโดยสถาบัน ADP ก็เพิ่มขึ้น 1.95 แสนตำแหน่งล้างความกังวลกับปัญหาเศรษฐกิจถดถอยไปในทันที
ดร.จิติพลกล่าวว่า ประเด็นทั้งหมดนี้ส่งผลให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ 10 ปีขยับขึ้นมาที่ระดับ 1.56% (+9.6bps) และราคาทองปรับฐานลงมาที่ระดับ 1,519 ดอลลาร์ต่อออนซ์กดดันให้เงินบาทและเงินเยนอ่อนตัวราว 0.5% ทันที
“สำหรับวันนี้เชื่อว่าตลาดจะรอดูตัวเลขฝั่งสหรัฐช่วงค่ำคาดว่ากระทรวงแรงงานสหรัฐฯจะเปิดเผยว่ายอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Non-fam Payrolls) เพิ่มขึ้น 1.6 แสนรายค่าจ้างเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนและอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7% ตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังแข็งแรงจะลดความน่าจะเป็นที่เฟดจะ ”ลดดอกเบี้ย” ซึ่งสามารถหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าได้” ดร.จิติพลกล่าว
