ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ประธานนักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (12 ก.ย.) ที่ระดับ 30.57 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (USD) ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน โดยกรอบค่าเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 30.52-30.62 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับแนวโน้มค่าเงินในวันนี้ คาดว่านักลงทุนจะจับตาไปที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เนื่องจากธนาคารกลางใหญ่แห่งแรกที่อาจทั้งลดดอกเบี้ยและซื้อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติม ถ้า ECB สามารถทำได้อย่างที่ตลาดคาดหวัง เงินยูโรก็มีโอกาสอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
“อย่างไรก็ตาม สกุลเงินในฝั่งตลาดเกิดใหม่อาจไม่อ่อนค่าลงมากนัก เพราะช่วงนี้ถือว่าได้รับแรงหนุนจากภาพรวมตลาดการเงินที่เปิดรับความเสี่ยง (Risk On) นอกจากนี้ ผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ที่ปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ก็กลายมาเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ในตลาดเกิดใหม่ด้วย” ดร.จิติพลกล่าว
ดร.จิติพลกล่าวว่า ในคืนที่ผ่านมาตลาดดูจะคลายกังวลกับปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนลงโดยสิ้นเชิง หลังจากที่จีนลดชนิดของสินค้านำเข้าจากสหรัฐที่จะถูกเก็บภาษี ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ตอบแทนด้วยการเลื่อนกำหนดเวลาในการตั้งกำแพงภาษีใหม่ออกไปอีก 2 สัปดาห์ ดัชนี S&P500 จึงปรับตัวขึ้น 0.7% แตะระดับ 3000 จุด ห่างจากระดับสูงสุดตลอดกาลเพียง 25 จุด
อย่างไรก็ดี บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีกลับไม่ปรับตัวขึ้นมากนัก โดยล่าสุดทรงตัวที่ระดับ 1.74% เพราะนักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางต่างๆ จะลดดอกเบี้ยช่วยตลาดเพิ่มเติมด้วย
“ในวันนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตลาดคาดว่าจะมีมติ “ลด” อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Deposit Rate) 0.10% สู่ระดับ -0.50% และอาจนำโครงการซื้อสินทรัพย์ (Quantitative Easing) กลับมาใช้ด้วยวงเงิน 4.5 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน” ดร.จิติพลกล่าว
และว่านอกเหนือจาก ECB ก็จะมีการประชุมธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) และธนาคารกลางตุรกี (CBRT) ที่นักวิเคราะห์ต่างคาดว่าจะ “ลด” อัตราดอกเบี้ยนโยบายลงทั้งคู่ ทั้งหมดถือว่าเป็นบวกกับสินทรัพย์ทางการเงินทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือบอนด์