นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังมอบนโยบายกับผู้บริหารสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ว่า ในการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ จำเป็นที่จะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากถึง 1.2 ล้านล้านบาท ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ฉะนั้น สบน. จะต้องจัดหาแหล่งเงินกู้ให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่จะทำการลงทุน โดยเฉลี่ย 1.5-2 แสนล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ดี ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกผันผวน จะต้องรักษาวินัยการเงินการคลังและหนี้สาธารณะให้อยู่ในกรอบ เพื่อให้การก่อหนี้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด และทำให้การลงทุนไม่สะดุด ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศด้วย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
อย่างไรก็ตาม ภายใต้สมมติฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ขยายตัวเฉลี่ยปีละ 4% จะทำให้หนี้สาธารณะในช่วง 5 ปีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 47-48% ของGDP จากปัจจุบันอยู่ที่ 41% ของGDP ซึ่งยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง ที่กำหนดว่าหนี้สาธารณะจะต้องไม่เกิน 60% ของGDP
นายอุตตม กล่าวว่า จะต้องรับมือกับภาวะตลาดการเงินโลกที่มีความผันผวน เนื่องจากจะส่งผลต่อตลาดเงิน และตลาดทุน รวมทั้งตลาดหุ้นกู้ต่างๆ ด้วย จึงได้ฝากให้สบน. บริหารจัดการให้เหมาะสมและติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจุบันพอร์ตหุ้นกู้ของไทย มีมูลค่า 12 ล้านล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการกู้จากภาครัฐ ขณะที่ภาคเอกชนออกหุ้นกู้เพียง 30% เท่านั้น
ทั้งนี้ สบน. จะต้องพยายามหาแหล่งเงินกู้สำรองเพิ่ม โดยเน้นที่การกู้ในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ไม่ต้องกังวลเรื่องความเสี่ยงจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนผันผวน ขณะที่การขยายฐานแหล่งเงินกู้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ จะต้องสร้างทางเลือกในการลงทุนใหม่ ขยายฐานผู้ลงทุนให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาช่วยในการพัฒนาตลาดทุน