ส่องหุ้นร้านอาหาร “เป็นพิษ” Q3 “ยอดขาย/สาขา” ร่วงต่อ

หุ้นร้านอาหาร “CENTEL-M-MINT-ZEN” เสี่ยงยอดขายสาขาเดิมในไตรมาส 3 ติดลบ “บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” ชี้เจอฟู้ดดีลิเวอรี่แย่งลูกค้า แถมเศรษฐกิจชะลอฉุดบริโภคแผ่ว ลุ้นรีบาวนด์ไตรมาส 4 ไฮซีซั่น “บล.กสิกรไทย” มองฟู้ดดีลิเวอรี่เป็นโอกาสขยายตลาด “บล.เคทีบี” เผยดีลซื้อเชนร้านอาหารกำลังมา

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปีนี้ภาพรวมหุ้นกลุ่มร้านอาหารดูไม่ค่อยสดใสนัก สะท้อนผ่านตัวเลขการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่งวดครึ่งแรกปี 2562 ส่วนใหญ่ยังคงติดลบ ได้แก่ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ที่ยอดขายหดตัวไป -4% บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) หดตัวไป -4% บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) ที่หดตัวไป -4% เช่นกัน มีเพียง บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) ที่เป็นยอดขายบวกสวนตลาด ขณะที่ทิศทางของ (SSSG) ในไตรมาส 3/2562 มีโอกาสปรับตัวลดลงต่ำกว่าครึ่งปีแรก

เนื่องจากได้รับผลกระทบจากธุรกิจฟู้ดดีลิเวอรี่ (food delivery) ที่ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยเฉพาะในฤดูฝนที่ผู้บริโภคมีแนวโน้มสั่งอาหารผ่านฟู้ดดีลิเวอรี่สูงขึ้น

นอกจากนี้ ภาพรวมการบริโภคของไทยที่ยังฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเป็นอีกปัจจัยที่กดดันธุรกิจอาหาร อย่างไรก็ดี ยังเชื่อว่าในไตรมาส 4/2562 ธุรกิจอาหารจะมีโอกาสรีบาวนด์ได้ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการจับจ่าย

สำหรับในกรณีหุ้น M ที่ใช้บริษัทย่อย (บริษัท คาตาพัลท์) เข้าถือหุ้น 65% ในบริษัท แหลมเจริญ ซีฟู้ด ผู้ทำธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม มูลค่าลงทุน 2,060 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ารายการซื้อหุ้นจะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค. 2562 นี้ ถือเป็นดีลที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะมูลค่าในการเข้าซื้อใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทเท่านั้น

“เดิมทีนักลงทุนอาจมองว่าการที่หุ้น M มีเงินสดในมือสูง จะจ่ายปันผลสูงด้วย อย่างไรก็ตาม การที่มีเงินสดในมือสูง แต่ไม่นำไปลงทุนใหม่จะไม่ส่งผลดีต่อผลประกอบการในระยะยาว ดังนั้น การเข้าซื้อแหลมเจริญฯ จึงเป็นข่าวดีที่จะช่วยหนุนกำไรของ M ในอนาคตได้ต่อไป” นายวิจิตรกล่าว

นายวิจิตรกล่าวด้วยว่า การลงทุนในหุ้นกลุ่มร้านอาหาร แนะนำให้รอเข้าซื้อในช่วงที่ราคาหุ้นปรับลดลง รับข่าวผลประกอบการไตรมาส 3/2562 ออกมาก่อน (คาดว่าจะออกมาไม่ดี) หรือในช่วงที่ราคาย่อตัวลงมาค่อนข้างมาก โดยทยอยซื้อสะสม เพื่อรับการรีบาวนด์ในไตรมาส 4/2562

นายภาสกร ลินมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ในระยะกลางถึงยาว หุ้นในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารจะยังเติบโตได้ดี โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของห้างสรรพสินค้าที่มีการเพิ่มพื้นที่ร้านอาหารมากขึ้น และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านการให้เงินอุดหนุนแก่ประชาชนเพื่อใช้ในการจับจ่ายใช้สอย (มาตรการชิม ช้อป ใช้) อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นธุรกิจอาหารอาจได้รับผลกระทบจากฤดูฝนที่ส่งผลให้จำนวนคนที่ไปเดินห้างสรรพสินค้าลดลง และส่งผลต่อเนื่องให้กำลังซื้อแผ่วลงเช่นกัน

ขณะที่เทรนด์ธุรกิจฟู้ดดีลิเวอรี่ที่เข้ามานั้น เดิมทีตลาดอาจกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อหุ้นธุรกิจอาหารที่มีสาขาในห้างสรรพสินค้า แต่ บล.กสิกรไทยมองว่า ฟู้ดดีลิเวอรี่จะส่งผลกระทบเชิงบวก เนื่องจากการให้บริการของฟู้ดดีลิเวอรี่ไม่ได้ทับซ้อนกับการให้บริการของธุรกิจอาหารในห้างสรรพสินค้า อีกทั้งร้านอาหารในห้างเริ่มหันมาใช้ฟู้ดดีลิเวอรี่เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย

ทั้งนี้ หุ้นเด่นในกลุ่มร้านอาหาร บล.กสิกรไทย แนะนำหุ้น M ที่ราคาเป้าหมาย 84.00 บาท โดยคาดว่ารายได้ของ M ในปีนี้จะยังเติบโตที่ 5.9% ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/2562 คาดว่าจะเติบโต 3% ลดลงจากไตรมาส 2/2562 ที่ขยายตัวได้ 5% เนื่องจากสัญญาณการบริโภคที่ไม่ค่อยดีนัก และจำนวนวันหยุดในไตรมาส 3/2562 น้อยลงเมื่อเทียบกับปีก่อน จึงส่งผลกระทบต่อยอดขาย อย่างไรก็ตาม พบว่า SSSG ของหุ้น M ครึ่งปีแรกยังขยายตัวได้ 5-10% ต่อปี

“ส่วนการซื้อแหลมเจริญฯ เป็นอีกเหตุผลที่เราเลือกหุ้น M เป็นหุ้นเด่น โดยสินค้าที่เป็นอาหารทะเลของแหลมเจริญฯ ถือว่าไม่ได้ทับไลน์เดิมกับสินค้าที่เอ็มเคฯทำอยู่ โดยในอนาคตแหลมเจริญฯ มีโอกาสขยายสาขาได้อีกมากจากปัจจุบันมีแค่ 19 สาขา” นายภาสกรกล่าว

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้นแหลมเจริญฯของหุ้น M ส่งผลให้มีโอกาสต่อยอดธุรกิจได้อีกในอนาคต เนื่องจากสินค้าของทั้ง 2 แบรนด์ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก อย่างไรก็ตาม ในแง่ของกำไรที่หุ้น M จะได้รับจากการถือหุ้นแหลมเจริญฯ อาจเพิ่มขึ้นเพียง 5-10% เท่านั้น

“หลังจากนี้ อาจเห็นธุรกิจร้านอาหารมีแนวโน้มใช้วิธีการเข้าซื้อเชนธุรกิจร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้วหรือที่มีกำไรอยู่แล้วกันมากขึ้น เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่ายกว่าวิธีการสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาใหม่ และยังสามารถช่วยหนุนกำไรของบริษัทได้ทันทีอีกด้วย” นายมงคลกล่าว