ค่าเงินบาทเปิดที่ 30.62 บ./ดอลลาร์ ซื้อขายกรอบแคบ จับตา2สกุลเงิน “หยวนอ่อนค่า-เยนแข็ง”

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ประธานนักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (30 ก.ย.) ที่ระดับ 30.62 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน ที่ระดับ 30.64 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยกรอบค่าเงินบาทวันนี้อยู่ระหว่าง 30.55-30.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกรอบค่าเงินรายสัปดาห์อยู่ที่ 30.20- 30.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

“ช่วงนี้เงินบาทซื้อขายในกรอบแคบ ประเด็นหลักพลิกมาเป็นเรื่องการลงทุนผสมกับสงครามการค้า หลังจากที่มีข่าวว่าทางการสหรัฐหาทางลดการลงทุนของนักลงทุนสหรัฐไปในจีน ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงจะทำให้ตลาดเข้าสู่ภาวะ Risk Off เงินหยวนอ่อนค่า และเงินเยนแข็งค่า” ดร.จิติพลกล่าว

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ ต้องจับตาไปที่ตลาดแรงงานของฝั่งสหรัฐ ถ้าชะลอตัวลงในเดือนนี้ ก็มีความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีความจำเป็นที่จะต้อง ลดดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อหนุนเศรษฐกิจ และจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงได้

ทั้งนี้ สัปดาห์นี้ ตลาดจะต้องเจอทั้งเรื่องการเมืองและตัวเลขเศรษฐกิจคละเคล้ากันไป โดยฝั่งสหรัฐฯ นักลงทุนต้องติดตามแนวโน้มการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสงครามการค้า และการถอดถอนประธานาธิปดี ซึ่งทั้งคู่มีโอกาสผลักให้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านฝั่งการคลังล่าช้า ขณะเดียวกันตลาดก็จะปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) ง่ายขึ้นมาก

นอกจากนั้น ข้อมูลเศรษฐกิจก็ดูไม่สดใสมากในสัปดาห์นี้ โดยในวันจันทร์ (30 ก.ย.) ทางการจีนจะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมการผลิต (Mfg. PMI) ที่ต่ำกว่าระดับ 50จุด แปลความได้ว่ากว่า 30% ของเศรษฐกิจจีนอยู่ในภาวะถดถอย

ต่อมาในวันอังคาร (1 ต.ค.) ผลสำรวจความเชื่อมั่นภาวะธุรกิจโดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (Tankan Survey) จะปรับตัวแย่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมมองธุรกิจของผู้ผลิตขนาดใหญ่ในอนาคต ที่จะลดลงจากระดับ 7.0 จุด เหลือ 1.0 จุด ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013

ข้ามมาฝั่งสหรัฐ ในวันศุกร์ (4 ต.ค.) ตลาดจะจับตาไปที่รายงานตัวเลขตลาดแรงงาน แม้ยอดการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non-farm Payrolls) จะเพิ่มขึ้นราว 1.2 แสนราย ค่าจ้างเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 0.3% และการว่างงานอยู่ที่ระดับ 3.7% แต่เชื่อว่าตลาดก็จะไม่คลายความกังวลกับอนาคตของเศรษฐกิจที่จะต้องเผชิญกับพิษสงครามการค้าเต็มรูปแบบในปลายไตรมาสสี่

ส่วนในฝั่งไทย กระทรวงพาณิชย์จะรายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในวันอังคาร คาดว่าจะร่วงต่อเนื่องแตะระดับ 0.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจากระดับ 0.52% ในเดือนสิงหาคม ด้วยราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยที่ลดลงราว 20% จากปีก่อนหน้า