ขุนคลังเล็งประเมินผล “ชิมช้อปใช้” ต.ค.นี้ ก่อนลุยเฟส 2

แฟ้มภาพ

อุตตม เล็งประเมินผล “ชิมช้อปใช้” ภายในเดือนต.ค.นี้ พร้อมพิจารณาสถานการณ์เศรษฐกิจ-แนวทางดำเนินการหากมีเฟส 2 ย้ำชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของก.คลังวัดรวมจีดีพีโต 3% ไม่ได้ เหตุส่งออกซบเซา ด้านโครงการ TFF ต้นปี’63 คาดเห็นการระดมทุนเฟสใหม่

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานสัมนา “Fitch Ratings Annual Conference on Global Risks and Thai Economic Outlook” ว่า ภายในเดือนต.ค.62 จะได้ข้อสรุปผลมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ที่ออกมาเพื่อให้ประชาชนออกไปจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ดีขึ้น

อย่างไรก็ดี การที่จะออกชุดมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส2 ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะเป็นในรูปแบบใดบ้าง เนื่องจากจะต้องพิจารณาผลจากชิมช้อปใช้ที่ออกมาพร้อมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดแรกก่อน จึงจะสามารถศึกษาแนวทางการดำเนินการต่อไป

พร้อมกันนี้ จะต้องพิจารณาเหตุผลโดยรวม โดยเฉพาะสถานการณ์เศรษฐกิจว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางใดบ้าง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อย่างไรก็ดี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เชื่อมต่อระบบนำชิมช้อปใช้เพื่อออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ดีขึ้น จะเห็นได้ว่าชิมช้อปใช้สามารถบูรณาการได้หลากหลาย

ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอลง รัฐบาลดูแลอย่างเต็มที่ ส่วนชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กระทรวงการคลังออกมานั้น จะดันให้เศรษฐกิจขยายตัวถึง 3% หรือไม่นั้น ไม่สามารถวัดรวมได้ทั้งหมด เนื่องจากชุดมาตรการที่ออกมาไม่ได้ดูแลปัญหาเศรษฐกิจทั้งหมด แต่เราก็ทำกันอย่างเต็มที่ไว้ก่อน ด้วยการออกมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ มั่นใจว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

อย่างไรก็ดี การส่งออกซึ่งเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก แต่เชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์มียุทธศาสตร์ออกมาดูแล ทั้งนี้ ภายสิ้นปี 2562 กระทรวงต่างๆ จะมาหารือร่วมกัน และแต่ละหน่วยงานจะมีแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาแน่นอน

นายอุตตม กล่าวว่า ความคืบหน้าของโครงการ Thailand Future Fund (TFF) น่าจะเห็นการระดมทุนเฟสใหม่ในช่วงต้นปี 2563 โดยขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการศึกษาหารือร่วมกับ 3-4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งโครงการระดมทุนรอบใหม่ส่วนใหญ่เป็นโครงการพัฒนาด้านคมนาคม

ทั้งนี้ หลังจากที่ได้พูดคุยกับทางฟิทช์ เรตติ้ง ซึ่งมีมุมมองเป็นเชิงบวกต่อภาพรวมของประเทศไทย โดยในเดือน ก.ค.62 ที่ผ่านมาฟิทช์ เรตติ้ง ได้ปรับมุมของอนาคตของประเทศไทยเป็น Positive จาก Stable ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้มีหลายประเทศที่ฟิทช์ เรตติ้ง ปรับอันดับลดลง


อย่างไรก็ดี เนื่องจากฟิทช์ เรตติ้ง มองว่าประเทศไทยมีรัฐบาลและศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาประเทศไปตามแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยชัดเจน จึงทำให้เป็นที่สนใจในการลงทุนของบริษัทระดับโลก ซึ่งสอดคลล้องกับการยื่นขอ BOI มากขึ้น เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้การลงทุนตามมา