“ธนกร” จวกฝ่ายค้าน ตั้งป้อมโจมตี “ชิมช้อปใช้” เศร้าใจ! รัฐทำอะไรแล้วผลตอบรับดี ไม่เห็นด้วยหมด

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงมาตรการกระต้นเศรษฐกิจ “ชิม ช้อป ใช้” ว่ามาตรการนี้ประชาชนตอบรับเป็นอย่างมาก ส่วนปัญหาเล็กๆ น้อยๆ หน่วยงานก็เข้าไปดูแลแล้ว ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบนั้นทุกอย่างเรียบร้อยดี ทั้งนี้ ในวันศุกร์ที่ 4 ต.ค. นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะลงพื้นที่ติดตามมาตรการชิม ช้อป ใช้ ที่ จ.ระยองด้วย โดยล่าสุดวันนี้ลงทะเบียนครบ 1 ล้านคนตั้งแต่ช่วงเวลา 03.00 น.

“อย่างไรก็ตาม ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมแกนนำพรรคเพื่อไทยไม่ว่าจะเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ต่างออกมาโจมตีมาตรการดังกล่าวว่าไม่มีประสิทธิภาพ ช่วยนายทุน ช่วยคนรวย ทั้งๆ ที่ประชาชนได้ประโยชน์ เหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ตั้งข้อสังเกตว่า อะไรที่รัฐบาลทำแล้วเกิดผลตอบรับที่ดีกับประชาชน ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยหมด ซึ่งน่าเศร้าใจมากที่มีวิธีคิดแบบนี้ ที่สำคัญ รัฐบาลไม่ได้ผลาญงบเหมือนที่ฝ่ายค้านเคยทำในอดีต ไม่ว่าจะเป็นโครงการจำนำข้าว และบ้านเอื้ออาทร ยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้จะทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของพี่น้องคนไทยทุกคน จะไม่ทำเพื่อนายทุนเด็ดขาด” นายธนกรกล่าว

นายธนกรกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ เป็นหนึ่งในมาตรการเพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2562 ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรรายย่อย รวมถึงส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2562 โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เนื่องจากมีความเชื่องโยงในระดับมหภาค ภูมิภาค และฐานราก เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยกระจายเม็ดเงินลงไปในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ เพื่อผลักดันไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัว และส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากอุปสงค์ภายในประเทศผ่านการกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังสาขาการผลิตที่เกี่ยวข้องเป็นวงกว้าง


ดังนั้น การส่งเสริมให้คนไทยจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นผ่านการท่องเที่ยวในประเทศจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวยังสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยเป็นกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านการบริโภค ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญ และจะส่งผลอย่างชัดเจนต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาฟื้นตัวและขยายตัวได้อย่างเต็มศักยภาพ