ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบ ตลาดจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

ภาพประกอบข่าวดอลลาร์สหรัฐ
แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 2 ตุลาคม 2562 ค่าเงินบาทปิดตลาดเช้าวันนี้ (2/10) ที่ระดับ 30.60/62 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดในวันอังคาร (1/10) ที่ระดับ 30.65/66 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่าดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 47.8 ในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้แต่เดือน มิ.ย. 2552 จากระดับ 49.1 ในเดือน ส.ค. ซึ่งดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิต ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นลดลง จากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ส่งผลให้คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกหดตัวลงตั้งแต่เดือน ก.ค. โดยการบริโภค คำสั่งซื้อใหม่ สต๊อกสินค้าคงคลังเพื่อการส่งออกและนำเข้า หดตัวลงเช่นกัน ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.60-30.68 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.64/65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ องค์การการค้าโลก (WTO) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของการค้าโลกในปีนี้ สู่ระดับ 1.2% จากเดิม 2.6% ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่วนการขยายตัวของการค้าโลกในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.7% ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 3.0%

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (2/10) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.0939/42 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (1/10) ที่ระดับ 1.0894/97 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่าควรจะมีการดำเนินมาตรการกระตุ้นทางการคลังทั่วยูโรโซน โดยตั้งเป้าไปที่การส่งเสริมการลงทุน และเรียกร้อให้รัฐบาลในยูโรโซนดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะถือเป็นการช่วยส่งเสริมนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษของอีซีบี ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.0904-1.0941 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0904/08 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (2/10) เปิดตลาดที่ระดับ 107.71/73 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (1/10) ที่ระดับ 108.34/36 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินเยนได้รับแรงหนุนเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยหลังตลาดกังวลกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ธนาคารกลางญีุ่่น (บีโอเจ) เปิดเผยผลสำรวจทังกันคาดการณ์ว่าดัชนีผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.9% ต่อปีซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์เมื่อเดือนก่อน ทั้งนี้ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 107.56-107.89 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 107.65/67
เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.ย.จาก ADP สหรัฐ (2/10), ยอดค้าปลีกเดือน ส.ค. ยูโรโซน (3/10), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน ส.ค.สหรัฐ (3/10), ดัชนีภาคบริการเดือน ก.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), และดุลการค้าเดือน ส.ค.สหรัฐ (4/10)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.5/-1.25 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +0.5/+1.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ