ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (9 ต.ต.) ที่ระดับ 30.42 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.47 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยกรอบค่าเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 30.38-30.48 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ช่วงคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินพลิกปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) เพราะเรื่องสงครามการค้าและปัญหาการเมืองระหว่างสหรัฐกับจีนที่เริ่มลุกลามไปสู่หลายภาคธุรกิจเห็นได้จากดัชนีหุ้น S&P500 สหรัฐที่ปรับตัวลงถึง 1.5% ดัชนี STOXX50 ของยุโรปที่ปรับตัวลง 1.1% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ 10 ปี ที่ร่วงลง 3bps มาที่ระดับ 1.53% อีกครั้ง
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
อย่างไรก็ดีในฝั่งของตลาดเงิน พบว่าดอลลาร์แข็งค่าราว 0.1% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเยนสวิสฟรังก์หรือดอลลาร์นิวซีแลนด์ ขณะเดียวกันค่าเงินปอนด์ก็อ่อนค่าลงถึง 0.6% เมื่อนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่าอังกฤษจะสามารถหาข้อตกลงเรื่อง Brexit กับยุโรปได้ฉุดเงินยูโรให้อ่อนค่าตาม 0.1%
“ในวันนี้เราเชื่อว่าการที่เงินเยนไม่แข็งค่ามากพร้อมกับราคาทองที่ยังแกว่งตัวระดับ 1,500 เหรียญต่อออนซ์จะช่วยให้เงินบาทไม่แข็งค่าเร็ว แต่ต้องระวังถ้าตลาดเกิดใหม่ (EM) กลับมามีปัญหาเงินทุนไหลออกจากความผันผวนที่สูงขึ้น นักลงทุนทั่วโลกก็อาจขายสกุลเงินผันผวนสูง เช่น ตุรกีลีราหรือบราซิลเรอัลมาพักในสกุลที่ผันผวนต่ำฝั่งเอเชียได้” ดร.จิติพลกล่าว