ราคาทองคำ เป็นขาลงในระยะสั้น ต้องทะลุ 1,525 ดอลลาร์ ถึงจะเป็นขาขึ้นได้

คอลัมน์สถานีลงทุน
ธนรัชต์ พสวงศ์ : ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

ราคาทองคำ spot ในช่วงต้นเดือนตุลาคมปรับลงอย่างรวดเร็วและทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ที่ 1,459 ดอลลาร์ หลังจากหลุดแนวรับสำคัญทางด้านเทคนิคที่ 1,485 ดอลลาร์/ออนซ์ ประกอบกับความกังวลในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนลดลง ซึ่งจะมีการเจรจาการค้ากันในวันที่ 10-11 ตุลาคม หลังจากที่ในเดือนกันยายนราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทำจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 1,556 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน การคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีโรงกลั่นน้ำมันที่ซาอุดีอาระเบีย

นับถอยหลังสู่ no deal Brexit หรือไม่

เป็นเวลากว่า 3 ปี ที่อังกฤษยังคงเผชิญต่อความไม่แน่นอนจากที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ ยังคงยืนยันอย่างชัดเจนว่าอังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) แม้ว่าจะไม่มีการทำข้อตกลงก็ตามในวันที่ 31 ตุลาคมที่กำลังจะถึงนี้ ทำให้ทั่วโลกต่างกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจของอังกฤษ เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปที่ร้ายแรงมากขึ้นจาก no deal Brexit ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปที่ชะลอตัวลง ซึ่งสถานการณ์ที่จะเกิด no deal Brexit นั้น ก็ยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากมีเวลาเหลือเพียงไม่ถึง 1 เดือนเท่านั้นที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ตุลาคม แต่การเจรจากับ EU นั้น ยังคงไม่มีความคืบหน้าแต่เพียงอย่างใด ในขณะที่ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษยังคงยืนยันต่อการออกจาก EU ตามกำหนดการเดิม แม้ว่าไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับ EU ได้ก็ตาม

ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหากอังกฤษเกิด no deal Brexit นั้น จะส่งผลให้เศรษฐกิจอังกฤษอาจหดตัวถึง 5% ภายในเวลา 1 ปี ซึ่งเทียบเท่ากับในช่วงเกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกเลยทีเดียว ไม่เพียงแค่นั้นสินค้าอุปโภคจะมีราคาแพงขึ้นมาก โดยเฉพาะอาหารและยารักษาโรค จนนำไปสู่การขาดแคลนอาหารและยา ซึ่งอังกฤษนำเข้าอาหารเกือบ 30% รวมถึงอังกฤษนำเข้ายา และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์มากถึง 75% จาก EU ซึ่งการแยกตัวออกจาก EU ในช่วงสิ้นเดือน ต.ค.นั้น จะเข้าใกล้ช่วงเทศกาล Black Friday และเทศกาล Christmas ทำให้มีความต้องการซื้อสินค้ามากขึ้น

ทั้งนี้ ผู้บริโภคจะแห่ซื้อสินค้ามากักตุน ซึ่งอาจทำให้ร้านค้าปลีกเกิดขาดแคลนสินค้าและอาหาร จากผลกระทบดังกล่าว จึงนำไปสู่สินค้าที่ราคาแพงขึ้น และหากว่าอังกฤษเกิด no deal Brexit ขึ้นมาจริง ๆ นั้น จะส่งผลให้ราคาทองพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวที่เกิดขึ้นในวันที่อังกฤษลงประชามติแยกตัว
ออกจาก EU เช่นกัน

สหรัฐและจีนพร้อมสู่การเจรจาการค้าครั้งใหม่อีกรอบ

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจึงยังคงเป็นประเด็นที่ยังคงมีความไม่แน่นอนให้นักลงทุนต่างได้เซอร์ไพรส์ได้เสมอ และยังคงเป็นประเด็นที่สร้างความผันผวนของราคาทองคำได้เสมอ เนื่องจากความกังวลต่อผลกระทบของสงครามการค้าที่ยืดเยื้อนั้น จะบานปลายส่งผลต่อเศรษฐกิจของโลก ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดย IMF ได้ปรับลดแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2562 ลงเหลือ 3.2% เนื่องจากผลกระทบจากสงครามการค้า และหากว่ายังคงมีความไม่แน่นอนทางการค้าต่อไป ก็เป็นการยากเช่นกันที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัว นอกจากจะสามารถคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าได้ ในขณะที่สหรัฐและจีนจะมีการเจรจาการค้าอีกครั้งในวันที่ 10-11 ตุลาคมนี้ ว่าจะยังคงมีความคืบหน้าในประเด็นทางการค้าหรือไม่ ซึ่งจะสร้างความผันผวนของราคาทองคำอย่างแน่นอน

แนวโน้มราคาทองคำเป็นขาลงในระยะสั้น โดยสังเกตได้จากจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดต่ำลงเรื่อย ๆ การปรับขึ้น
ของราคาทองคำเป็นการฟื้นตัวในกรอบขาลง ยกเว้นจะสามารถทะลุกรอบแนวต้านด้านบนที่ 1,525 ดอลลาร์ ถึงจะกลับเป็นขาขึ้นได้ และจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,535 ดอลลาร์ และ 1,550 ดอลลาร์ ส่วนกรอบแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,450 ดอลลาร์

เป็นจุดที่สามารถเข้าซื้อราคาทองคำได้