“ธนชาตประกัน” รุกขายผ่านแบงก์ใหม่ดันเบี้ยแตะหมื่นล้าน

“ธนชาตประกันภัย” รับนโยบายบริษัทแม่ “TCAP” ลุยแบงก์แอสชัวรันซ์เสิร์ฟลูกค้าแบงก์ “TMB-ธนชาต” หลังควบรวมกว่า 10 ล้านราย คาดประเดิมขายประกันรถยนต์-ประกันอุบัติเหตุได้ตั้งแต่ต้นปี’63 จับลูกค้ารายย่อยโฟกัสกลุ่ม “เงินฝาก-ประกันสินเชื่อ-เอสเอ็มอี” เผย ธ.ค.นี้ชงบอร์ดอนุมัติแผนธุรกิจปีหน้า-หวังปั๊มเบี้ยทะลุหมื่นล้าน ส่วนปีนี้ตั้งเป้าเบี้ยรวมจบที่ 8.5 พันล้านบาท โต 5%

นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนชาตประกันภัย (TNI) เปิดเผยว่า ภายในเดือน ธ.ค.นี้ บริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เพื่อพิจารณาอนุมัติแผนธุรกิจปี 2563 โดยปีหน้าบริษัทมีเป้าหมายหลัก คือ การเข้าไปเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับทางธนาคารใหม่ หลังจากธนาคารทหารไทย (TMB) ควบรวมกิจการกับธนาคารธนชาต (TBANK) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมและปรับจูนการทำงานกับพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ คาดว่าช่วงต้นปี 2563 จะสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจแบงก์แอสชัวรันซ์ (ขายประกันผ่านธนาคาร) ผ่านทางแบงก์ใหม่ได้ โดยจะนำร่องขายประกันภัยรถยนต์และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลก่อน

“ถือเป็นโอกาสที่ท้าทายที่จะเข้าไปทำธุรกิจ แต่ที่แน่ ๆ เราจะได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะเป็นลูกค้ารายย่อยกว่า 10 ล้านราย โดยเราจะใช้ความเชี่ยวชาญของเราที่ขายผ่านแบงก์แอสชัวรันซ์มากว่า 15 ปี ประสบความสำเร็จด้านเครื่องมือชี้วัดความพึงพอใจ (NPS) ของลูกค้าที่ได้รับบริการรวดเร็ว ประกอบกับการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาเชื่อมต่อระบบงานประกันภัย เพื่อลดระยะเวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่ และลูกค้าได้รับการอนุมัติงานซ่อมรถยนต์ที่รวดเร็วและถูกต้องแม่นยำ อาทิ ดิจิทัลเคลม โดยการนำ AI (ปัญญาประดิษฐ์) มาใช้ประเมินราคาซ่อมรถยนต์แบบอัตโนมัติ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเสริมให้แบงก์ใหม่สามารถดูแลลูกค้าได้ครบวงจร ขณะที่ทาง TMB ยังเน้นขายสินค้าประกันชีวิตเป็นหลักในปัจจุบัน ดังนั้น จึงนับเป็นมุมมองใหม่ที่จะสร้างโอกาสและการเติบโตด้านธุรกิจประกันวินาศภัยได้อย่างมหาศาล” นายพีระพัฒน์กล่าว

นายพีระพัฒน์กล่าวอีกว่า ความร่วมมือครั้งนี้คาดว่าจะสร้างยอดขายและมีอัตราการเติบโตอย่างน้อยเป็นตัวเลข 2 หลักต่อปี แต่ช่วงแรก ๆ คงจะต้องค่อย ๆ เติบโต เพราะอยู่ในช่วงการเซตอัพระบบงาน และพูดคุยกับพนักงานทั้ง 2 แบงก์ ให้มีความรู้และความเข้าใจเพื่อเสนอขายให้กับลูกค้าอย่างถูกต้อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีเบี้ยประกันภัยจากธุรกิจแบงก์แอสชัวรันซ์อยู่ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นสัดส่วน 30% ของเบี้ยรวม โดยลูกค้าของบริษัทที่ถือกรมธรรม์มีมากกว่า 1.5 ล้านฉบับ

สำหรับช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย. 62) บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท เติบโต 6.6% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี คาดว่าสิ้นปีนี้จะบรรลุเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 8,500 ล้านบาท เติบโตราว 5% ส่วนเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2563 นั้น กำลังพิจารณาตั้งเป้าว่าจะสามารถทะลุ 10,000 ล้านบาทได้หรือไม่ ซึ่งต้องรอดูผลงานก่อน ซึ่งจริง ๆ ทิศทางของบริษัทก็พยายามที่จะดูแลลูกค้ารายย่อยให้ดีที่สุด


“ก่อนหน้านี้ เราเป็นบริษัทลูกของ TBANK แต่ปัจจุบันกลายเป็นบริษัทลูกของ บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) โดยต้องไม่ลืมว่า TCAP เป็นผู้ถือหุ้นรายสำคัญของแบงก์ใหม่ในสัดส่วนกว่า 21% ดังนั้น หน้าที่ของเราก็ต้องตามไปให้บริการแบงก์ใหม่ ในเรื่องการทำประกันให้กับลูกค้าแบงก์ใหม่ ซึ่งจะโฟกัสกลุ่มเป้าหมายทั้งลูกค้าเงินฝาก ลูกค้าประกันสินเชื่อ และลูกค้าเอสเอ็มอี” นายพีระพัฒน์กล่าว