ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ประธานนักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (18 ต.ค.) ที่ระดับ 30.30 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 30.25 ถึง 30.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดการเงินโลกช่วงวันก่อน (17 ต.ค.) และในคืนที่ผ่านมาค่อนข้างซับซ้อน โดยฝั่งสหรัฐ ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2997 จุด ห่างจากจุดสูงสุดที่เคยทำได้เพียง 28จุด โดยมีแรงสนับสนุนหลักจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่งเกินคาด
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ไม่ได้แข็งค่าเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ ขณะที่เงินยูโร น้ำมัน และทองคำ ปรับตัวขึ้น 0.95% – 1.2% ซึ่งอาจแปลความได้ว่า ตลาดเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจดีขึ้น ความผันผวนในฝั่งยุโรปกำลังจะหมดไป และสินทรัพย์เสี่ยงจะกลับมาน่าสนใจ
“เราเชื่อว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดจากข้อตกลงระหว่างสหราชอาณาจักร (UK) และสหภาพยุโรป (EU)ที่ล่าสุดมี “ข้อตกลง” ที่ชัดเจน แม้ว่าทาง UK จะต้องนำข้อตกลงนี้กลับมาขอความเห็นจากสภาอังกฤษก่อน แต่โดยรวมตลาดเชื่อว่าเป็นความคืบหน้าที่สำคัญ” ดร.จิติพลกล่าว
ส่วนในฝั่งของตลาดการเงินไทย พบว่าพันธบัตร (บอนด์) ปรับตัวลงอย่างรวดเร็วจากข่าวข้อตกลง Brexit ดังกล่าวโดยล่าสุดผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ไทยอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 1.57% (+5bps) และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1.2 พันล้านบาท ขณะเดียวกันเงินบาทก็แข็งค่าตามกระแสดอลลาร์อ่อนด้วย
“ในอนาคต เราเชื่อว่าแรงกดดันจากกระแสการอ่อนค่าของดอลลาร์ (Risk On) เป็นปัจจัยที่ต้องจับตาว่าจะอยู่ได้นานหรือไม่ เพราะแม้ว่าข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ทำให้การต่อรองที่ยาวนานระหว่าง UK และ EU จบลง แต่ถ้าเกิด Brexit จริงก็จะกดดันเศรษฐกิจในฝั่งยุโรปให้แย่ลงซึ่งไม่ได้เป็นผลดีกับตลาดทุน ขณะเดียวกัน ก็ต้องจับตาดูด้วยว่าแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างตราสารหนี้ จะกลายเป็นแรงซื้อสินทรัพย์หรือไม่ โดยถ้านักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยงจริง เงินบาทก็สามารถแข็งค่าได้ต่อเนื่อง” ดร.จิติพลกล่าว