ดอลลาร์ทรงตัว ตลาดจับตา Brexit

แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (21/10) ที่ระดับ 30.28/30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (18/10) ที่ระดับ 30.30/32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลงจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอติดต่อกัน และความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องของค่าเงินยูโรและปอนด์ จากความคาดหวังที่ว่าอังกฤษจะสามารถถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) แบบมีข้อตกลง

สำหรับปัจจัยในประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ก.ย. 62 โดยระบุว่า การส่งออกมีมูลค่า 20,481.3 ล้านเหรีญสหรัฐ หดตัว -1.3% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 19,206.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว -4.24% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 1,275.2 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมประเมินว่าในช่วงที่เหลืออีก 3 เดือนนี้ การส่งออกของไทยมีความเป็นไปได้ที่จะติดลบใกล้เคียงระดับ 1% โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 4 การส่งออกจะขยายตัวได้ 0.1% โดยปัจจัยที่ยังมีความท้าทายต่อการส่งออกไทยในปีนี้ ได้แก่ เศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวจากปัจจัยเสี่ยงที่มาจากความผวนผวนในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.26-30.29 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.25/27 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (21/10) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1155/57 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (18/10) ที่ระดับ 1.1130/32 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าอังฤษจะออกจาก EU ได้ตามกำหนดในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรี นายจอห์นสันเพิ่งบรรลุข้อตกลงเรื่อง Brexit กับ EU ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (17/10) ถึงแม้ว่าวันเสาร์ที่ผ่านมา (19/10) นายจอห์นสัน ได้ส่งจดหมายถึง EU เพื่อขอเลื่อนเวลา Brexit ภายหลังจากสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 322 ต่อ 306 เสียง ให้เลื่อนภารกิจตัดสินใจรับรองข้อตกลง Brexit ฉบับของนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน โดยระบุให้ยับยั้งข้อตกลง Brexit ไปจนกว่าจะมีการผ่านร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน โดยระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1139-11.1179 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1167/69 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (21/10) เปิดตลาดที่ระดับ 108.48/50 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (18/10) ที่ระดับ 108.60/62 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวในกรอบแคบขณะที่ตลาดขาดปัจจัยชี้นำ ทั้งนี้ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 108.31-108.66 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.55/57 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือน ก.ย. (22/10), ดัชนีภาคการผลิตเดือน ต.ค. จากเฟดริชมอนด์ (22/10), ดัชนีราคาบ้านเดือน ส.ค. (23/10), สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนังานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) (23/10), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (24/10), ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ก.ย. (24/10), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน ต.ค. จากมาร์กิต (24/10), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือน ต.ค.จากมาร์กิต (24/10), ยอดขายบ้านใหม่เดือน ก.ย. (24/10)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -0.8-0.6 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.3/+0.3 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ