
ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 30.26 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยกรอบค่าเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 30.20-30.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ค่าเงินบาท ระยะสั้นทำได้เพียงแกว่งตัวในกรอบแคบเท่านั้น แม้หุ้นและพันธบัตร (บอนด์) จะเจอกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ แต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้เงินบาทอ่อนค่าได้ ในทางกลับกันการค้าในเอเชียก็เริ่มฟื้นตัว ถ้าภาพการชะลอตัวของส่งออกผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว หรือราคาน้ำมันปรับตัวลง ก็มีความเป็นไปได้มากที่จะเห็นเงินบาทแข็งค่าลงต่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยในช่วงสัปดาห์หน้า
โดยช่วงคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ ดัชนีหุ้นสหรัฐ S&P500 ปรับตัวขึ้นเพียง 0.2% นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ 10 ปี ทรงตัวที่ 1.77% และตลาดเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จำเป็นจะต้องลดดอกเบียร์ต่อเนื่องในช่วงปลายเดือนนี้
ฝั่งยุโรป ธนาคารกลางยุโรปหรืออีซีบี “คง” ดอกเบี้ยนโยบายทั้งหมดในการประชุมครั้งสุดท้ายของประธานธนาคารกลางจากอิตาลี นายมาริโอ ดรากี ซึ่งส่งท้ายด้วยสัญญาณว่านโยบายการเงินจะผ่อนคลายต่อเนื่องเพราะเศรษฐกิจในยูโรโซนยังมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลง ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางตุรกี “ลด” ดอกเบี้ยถึง 2.5% มาที่ระดับ 14% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากเงินเฟ้อปรับตัวลงต่ำกว่า 10% ครั้งแรกนับตั้งปี 2017 ขณะที่ค่าเงินลีรา กลับมาแข็งค่า 2.8% ในช่วง6เดือนที่ผ่านมา ในทวีปนี้ จึงมีเพียงธนาคารกลางสวีเดนเท่านั้นที่ยังคงมีเป้าหมาย “ขึ้น” ดอกเบี้ยในช่วงปลายปีจากระดับติดลบ 0.25% ไปที่ 0.00%