แบงก์ใหญ่ปรับเป้าธุรกิจกระทบหุ้นร่วงหลุด 1,600 จุด

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 25 ต.ค.62 หลังปรับลดลงหลุด 1,600 จุด โดยชี้ว่า ณ ปัจจุบันยังไม่มีประเด็นลบที่ส่งผลกระทบต่อตลาด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ที่เคลื่อนไหวหลุด 1,600 จุด อาจได้รับโมเมนตัมเชิงลบต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ (24 ต.ค.62) หลังธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ประกาศปรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2563 ซึ่งเป็นภาพสะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าอาจมีความเสี่ยงชะลอตัวลง

นอกจากนี้ เชื่อว่าการที่ SET Index ปรับลดลงค่อนข้างแรง ส่วนหนึ่งมาจากการปรับพอร์ตของสถาบันในประเทศต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้เช่นกัน โดยสถาบันในประเทศขายสุทธิ 4,523 ล้านบาท

ส่วนปัจจัยแวดล้อมที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมเบร็กซิต (Brexit) ที่จะรู้ผลในบ่ายวันนี้ ส่วนในสัปดาห์หน้า (28 ต.ค. – 1 พ.ย.62) ให้น้ำหนักที่การประชุมธนาคารสหรัฐ (Fed) เป็นหลัก โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่แนวรับ 1,590 จุด และแนวต้านที่ 1,620 จุด โดยให้แนวรับถัดไปในกรณีที่เคลื่อนไหวหลุด 1,590 จุด ไว้ที่ 1,575 จุด

นายชาญชัย กล่าวว่า แม้จะมีปัจจัยลบเข้ามากระทบต่อตลาดหุ้นแต่มองว่าทิศทางของฟันด์โฟลว์ (เม็ดเงินลงทุนต่างชาติ) เริ่มเห็นสัญญาณบวก โดย 5 วันทำการที่ผ่านมาต่างชาติซื้อสลับขาย แต่เป็นขายสุทธิถึง 3 วัน นอกจากนี้ ยังเห็นสัญญาณในตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้า (TFEX) โดยนักลงทุนต่างชาติเปิดสถานะถือยาว (Net Long) รวม 22,071 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อทิศทางฟันด์โฟลว์ไหลเข้าในอนาคต

ด้านกลยุทธ์การลงทุน SET Index ที่ 1,600 จุด เป็นจุดที่สามารถเข้าซื้อเพื่อลดทุนระยะยาวได้ แต่อาจไม่เหมาะกับการเข้าซื้อเพื่อลงทุนระยะสั้น ขณะที่หุ้นเด่น (Top Pick) แนะนำหุ้นที่ราคาปรับลดลงค่อนข้างมากแต่ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง คือ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ที่ราคาเหมาะสม 92.00 บาท และหุ้นปันผลเด่น คือ บมจ.เอ็ม.ซี.เอส.สตีล (MCS) ที่ราคาเป้าหมาย 11.30 จุด (ปันผลประมาณ 6% ณ ราคาปัจจุบันที่ 8.90 บาท)