กลุ่มบริษัทเอไอเอ Q3แผ่ว มูลค่าธุรกิจใหม่โต1% เซ่นพิษประท้วงฮ่องกง

กลุ่มบริษัทเอไอเอ สำนักงานใหญ่ฮ่องกงรายงานผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3/62 สิ้นสุด 30 ก.ย.62อัตราการเติบโตที่รายงานคิดจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ตามรายละเอียดด้านล่าง

  • มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตเพิ่มขึ้น 1% เป็น 980 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • การเติบโตเพิ่มขึ้น 14% ในมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เมื่อไม่รวมฮ่องกง
  • เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) ลดลง 8% เป็น 1,444 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) เพิ่มขึ้น 6.0 จุด คิดเป็น 67%
  • เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้น 8% เป็น 8,168 ล้านเหรียญสหรัฐ

สรุปสาระสำคัญทางการเงิน

นายอึง เค็ง ฮุย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า เอไอเอมีผลการดำเนินงานด้วยอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) คิดเป็น 980 ล้านเหรียญสหรัฐ ในสภาวะการดำเนินธุรกิจที่ท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ปัจจุบันในฮ่องกง โดยเมื่อไม่คิดรวมฮ่องกง มูลค่าธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทเอไอเอเติบโตขึ้น 14% เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3/61 และประเทศจีนยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตเร็วที่สุด

ไตรมาส 3 มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโต 1% คิดเป็น 980 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้การเติบโตของช่องทางเอเจนซีและพันธมิตรธนาคารสวนทางกับการลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญในมูลค่าธุรกิจใหม่ผ่านช่องทางที่ปรึกษาทางการเงินอิสระในฮ่องกง โดยธุรกิจในฮ่องกงรายงานการลดลงเป็นตัวเลขสองหลักของมูลค่าธุรกิจใหม่ในไตรมาสที่ 3 ทั้งนี้การเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในมูลค่าธุรกิจใหม่จากลูกค้าภายในประเทศสวนทางกับการลดลงของมูลค่าธุรกิจใหม่จากนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าฮ่องกงโดยรวมลดลง จากการรายงานเมื่อเดือน ก.ค.-ส.ค.

ธุรกิจของเอไอเอในประเทศจีนยังคงมีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่แข็งแรง และยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในไตรมาสที่ 3 กลยุทธ์การรับสมัครพรีเมียร์ เอเจนซี (Premier Agency) และโปรแกรมการฝึกอบรมของเรา ช่วยสนับสนุนการเติบโตของทั้งพนักงานใหม่และพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่อย่างมาก นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานที่มาจากการเปิดศูนย์ให้บริการการขายในเมืองเทียนจิน และเมืองฉือเจียจวง ในมณฑลเหอเป่ย ได้รับผลตอบรับที่ดี และเรายังคงเตรียมพร้อมในการหาพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การขยายธุรกิจของเราเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม

ธุรกิจในประเทศไทยเติบโตจากช่องทางตัวแทนและช่องทางพันธมิตร ซึ่งทำให้เกิดมูลค่าธุรกิจใหม่ที่แข็งแกร่ง ซึ่งการปรับเปลี่ยนช่องทางตัวแทนทำให้เห็นการเติบโตของตัวแทนที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น รวมถึงพันธมิตรอย่างธนาคารกรุงเทพก็มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ธุรกิจของเอไอเอที่ประเทศสิงคโปร์ มีผลการดำเนินงานของมูลค่าธุรกิจใหม่คงที่ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3/2561 เนื่องด้วยการลดลงของธุรกิจเบี้ยประกันจ่ายครั้งเดียวสวนทางกับกับการเติบโตของเบี้ยประกันรายงวด นอกจากนี้ เรามีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่มั่นคงในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของทั้งช่องทางตัวแทนและพันธมิตร

การเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ในประเทศอื่นๆ เป็นผลมาจากการดำเนินงานอย่างแข็งแกร่งจากธุรกิจในประเทศอาเซียนของเรา ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยเอไอเอในประเทศออสเตรเลีย มีมูลค่าธุรกิจใหม่ที่ลดลง เนื่องมาจากระยะเวลาของแผนการรวมกลุ่มขนาดใหญ่ ตามรายงานก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ หากไม่นับรวมผลกระทบจากแผนการรวมกลุ่มขนาดใหญ่ ประเทศอื่นๆ ของเอไอเอ มีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่เป็นตัวเลขสองหลัก เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3/2561

โดยภาพรวมเบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) ลดลง 8% เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3/2561 คิดเป็น 1,444 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) มีการพัฒนาคิดเป็น 67% เพิ่มขึ้น 6.0 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และภูมิศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสมมติฐานการทำงาน และผลกระทบที่ดีจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบทางภาษี ที่ได้เพิ่มการลดหย่อนภาษีของค่านายหน้าในประเทศจีน อัตรากำไรของมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ (PVNBP) เติบโตเพิ่มขึ้น 12% จาก 10% ในไตรมาสที่ 3/2561 ทั้งนี้การสมมติฐานเชิงเศรษฐกิจระยะยาวยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากรายงานประจำปี 2561 รวมทั้งวิธีการที่เราใช้ในการรายงานผลการดำเนินงานธุรกิจใหม่ประจำไตรมาสยังคงเหมือนเดิม นอกจากนี้ เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้น 8% คิดเป็น 8,168 ล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3/2561

มุมมองด้านเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นผลมาจากความหลากหลายทางเศรษฐกิจ และนโยบายเศรษฐกิจมหภาคเชิงรุก  ในขณะที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมีการชะลอตัว  แต่แรงขับเคลื่อนภายในประเทศจากอุปสงค์ และแนวโน้มด้านประชากรศาสตร์หลักในภูมิภาคเอเชียจะส่งผลด้านบวกต่อธุรกิจของเอไอเอในระยะยาว  ตลาดของเอไอเอในบางประเทศกำลังเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ความมั่นใจของผู้บริโภคที่ลดลง และความตึงเครียดด้านการเมืองและการค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำนวนของผู้เดินทางจากประเทศจีนไปยังฮ่องกงที่ลดลงได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายอย่างต่อเนื่อง  อย่างไรก็ตาม ความต้องการในผลิตภัณฑ์ประกันของเอไอเอจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เนื่องจากอัตราการทำประกันชีวิตของคน รวมถึงความคุ้มครองจากสวัสดิการสังคมยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ ความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่าย บวกกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมของเอไอเอ จะสร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพในเอเชียในระยะยาว

ความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยน

เอไอเอได้รับเบี้ยประกันภัยส่วนใหญ่เป็นเงินสกุลท้องถิ่น ซึ่งทำให้สินทรัพย์และหนี้สินของเรามีมูลค่าใกล้เคียงกัน ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ ในรายงานงบการเงินของกลุ่มบริษัท
เอไอเอ ที่มีการแปลเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เกิดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน  ดังนั้น เราจึงมีการรายงานอัตราการเติบโตจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เว้นแต่ระบุเป็นอย่างอื่น เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนของผลการดำเนินธุรกิจระหว่างปี

ข้อระมัดระวัง

บริษัทให้ความสำคัญอย่างมากกับการส่งต่อข้อมูลที่อ้างถึงความเชื่อมโยงในส่วนงานที่เฉพาะเจาะจงของบริษัทใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2562 ข้อมูลในคำถามนั้นไม่มีความสมบูรณ์และไม่ได้สะท้อนผลการดำเนินงานทางด้านการเงินของส่วนงานที่สำคัญหรือของบริษัทในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้น บริษัทจึงได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญของธุรกิจใหม่สำหรับไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2562 ก่อนเวลาที่กำหนด เพื่อให้มั่นใจว่าความมั่นคงของตลาดสำหรับการค้าหลักทรัพย์ของบริษัทจะยังคงดำเนินอยู่ ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนที่มีศักยภาพไม่ควรเชื่อถือข้อมูลใดๆ นอกเหนือจากข้อมูลประกาศอย่างเป็นทางการของบริษัท และไม่ควรใช้ข้อมูลที่ไม่เป็นทางการเป็นข้อมูลหลักในการตัดสินใจลงทุนที่เกี่ยวกับหลักทรัพย์ของบริษัท เนื่องด้วยข้อมูลเหล่านั้นไม่ได้นำเสนอมุมมองที่ถูกต้องและสมบูรณ์ถึงผลการดำเนินงานของบริษัท