บาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ตลาดติดตามการประชุม กนง.อย่างใกล้ชิด

แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (4/11) ที่ระดับ 30.16/17 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (1/11) ที่ระดับ 30.16/17 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในช่วงแรกหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 128,000 ตำแหน่งในเดือน ต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ ระดับ 90,000 ตำแหน่ง โดยการจ้างงานส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นในธุรกิจบริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม, การช่วยเหลือทางสังคม และกิจกรรมทางการเงิน ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงปรับเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในเดือน ต.ค. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ต่อมาดอลลาร์สหรัฐร่วงลง หลังจากสถาบันจัดการอุปทาน (ISM) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐปรับขึ้นจากระดับ 47.8 ในเดือน ก.ย. สู่ระดับ 48.3 ในเดือน ต.ค. แต่ยังคงระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ส่งผลให้ความกังวลเรื่องการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ เพิ่มมากขึ้น

สำหรับปัจจัยที่ตลาดรอติดตามในประเทศ ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) ซึ่งตลาดคาดหวังการลดดอกเบี้ยนโยบายลงเป็นครั้งที่ 2 ภายในปีนี้ และนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เริ่มมองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันพุธนี้ อีกประเด็นคือการเจจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทั้งนี้ระหว่างว้นค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.16-30.195 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.18/19 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรวันนี้ (4/11) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1167/69 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (1/11) ที่ระดับ 1.1143/45 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยในช่วงบ่ายวันนี้ มาร์กิตเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 45.9 ในเดือน ต.ค. จากระดับ 45.7 ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนรอดูการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกของนางคริสติน
ลาการ์ด ในฐานะประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ และติดตามผลการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ในวันพฤหัสบดี (7/11) โดยนักลงทุนคาดว่า BOE จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.75% ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1160-1.1175 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1161/65 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (4/11) เปิดตลาดที่ระดับ 108.21/22 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (1/11) ที่ระดับ 108.04/05 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยนักลงทุนเทขายเงินเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความคืบหน้า ทั้งนี้ค่าเงินยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบเนื่องจากตลาดขาดปัจจัยชี้นำ โดยค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 108.19-108.42 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.36/38 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน ก.ย. (4/11), ดุลการค้าเดือน ก.ย. (5/11), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน ต.ค. จากมาร์กิต (5/11), ดัชนีภาคบริการเดือน ต.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) (5/11), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (7/11), ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือน พ.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (8/11)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.2/-0.7 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.3/+0.2 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ