กรุงศรีเผยเงินบาทยังแข็งค่าสุดในภูมิภาค แม้หลัง กนง.ลดดอกเบี้ยเหลือ 1.25%

กรุงศรีเผยเงินบาทยังแข็งค่าสุดในภูมิภาค แม้หลัง กนง.ลดดอกเบี้ยเหลือ 1.25% ฉุดเงินบาทอ่อนค่าแตะ 30.40 บาท/ดอลลาร์

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ให้ความเห็นต่อผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.25% ซึ่งคาดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วและซื้อขายแถวระดับ 30.40 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะลดช่วงของการอ่อนค่าลงได้บ้าง นับตั้งแต่ต้นปีเงินบาทแข็งค่าประมาณ 7% และยังเป็นสกุลเงินที่แข็งค่าที่สุดในเอเชีย

ทั้งนี้ คณะกรรมการ กนง. ยังย้ำความกังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาท ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเผยก่อนหน้านี้ว่าเตรียมที่จะประกาศมาตรการที่จะเอื้อต่อการนำเงินออกนอกประเทศ ด้วยการผ่อนปรนกฏระเบียบการส่งเงินกลับของภาคส่งออก รวมทั้งเปลี่ยนแปลงกฏระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายทองคำ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เงินบาทแข็งค่าเกินไป

โดยคณะกรรมการ กนง.กล่าวย้ำถึงแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยระบุว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้และการส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ขณะที่การท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้าๆ รวมทั้งการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอลง แม้ว่าได้รับการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เนื่องจากการหดตัวของภาคส่งออกส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและแรงกดดันต่อรายได้จากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ในด้านแรงกดดันด้านราคา คณะกรรมการตัดทิ้งคาดการณ์ที่เคยประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะปรับขึ้นสู่กรอบเป้าหมายในปี 2563

นอกจากนี้ คณะกรรมการ กนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ความเห็นของ กนง. ในวันนี้แสดงท่าทีนโยบายที่ผ่อนปรน อย่างไรก็ตาม กรุงศรีมองว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้น่าเป็นครั้งสุดท้ายของวัฎจักรในรอบนี้ เพราะขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายจำกัดมากแล้ว ขณะที่ทางการยังคงกังวลในเรื่องความเสี่ยงเกี่ยวกับเสถียรภาพจากภาวะดอกเบี้ยต่ำ และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ระดับ 1.25% ตลอดปี 2563