ดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ตลาดจับตาถ้อยแถลงประธานเฟด

ภาพประกอบข่าวดอลลาร์สหรัฐ
แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (11/11) ที่ระดับ 30.3435 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (8/11) ที่ระดับ 30.37/39 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างวันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบแคบเนื่องในวันหยุดสหรัฐ วันทหารผ่านศึก (Veterans Day) โดยตลาดการเงินทั่วโลกยังคงรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ (8/11) ว่า เขาไม่เห็นด้วยต่อการยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ถึงแม้ว่าจีนต้องการให้เขาดำเนินการดังกล่าวก็ตาม โดยคำกล่าวของประธานาธิบดี ทรัมป์สวนทางกับแถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีนที่ว่า สหรัฐและจีนได้ตกลงกันที่จะทยอยยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าของแต่ละฝ่ายที่มีการกำหนดขึ้นในช่วงที่สหรัฐและจีนทำสงครามการค้าก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการแถลงมุมมองเศรษฐกิจของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรส และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือน ต.ค. ของสหรัฐในวันพุธนี้ (13/11) เพื่อดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ 30.34-30.36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.34/35 บาท/ดอลลาร์

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (11/11) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1019/21 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (8/11) ที่ระดับ 1.1038/40 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยตลาดจับตาดูตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของเยอรมนี ในวันพฤหัสบดีนี้ (14/11) ทั้งนี้ตลาดคาดว่าอาจหดตัวลง 0.1% โดยเศรษฐกิจเยอรมนีอยู่ในภาวะชะลอตัวมาอย่างต่อเนื่อง 1 ปี และยังไม่มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น โดยสถานการณ์นี้อาจจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจของประเทศอื่น ๆ ทั่วยุโรปตามไปด้วย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.101-1.1030 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1026/28 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (11/11) เปิดตลาดที่ระดับ 109.13/15 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (8/11) ที่ระดับ 109.33/35 เยน/ดอลาร์สหรัฐ ค่าเงินเยนยังคงได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ โดยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยลดลง 2.9% ในเดือน ก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9% ทั้งนี้ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 108.93-109.25 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.97/99 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค. (13/11), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (14/11), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ต.ค. (14/11), สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) (14/11), ยอดค้าปลีกเดือน ต.ค. (15/11), ราคานำเข้าและส่งออกเดือน ต.ค (15/11), ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือน พ.ย. จากเฟดนิวยอร์ก (15/11), การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ต.ค. (15/11), สต๊อกสินค้าคงคล้งภาคธุรกิจเดือน ก.ย. (15/11)


สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.5/-1.2 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้อกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ 0.17/0.89 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ