ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (13 พ.ย.) “นิ่ง” ที่ระดับ 30.33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ไม่ต่างจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนโดยกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 30.28 – 30.38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
โดยในช่วงคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินฝั่งสหรัฐเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย S&P ปรับตัวขึ้น 0.16% Dow Jones ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ Euro Stoxx 50 ฟื้นตัว 0.42% จุดที่น่าสนใจคือการขึ้นแถลงการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ชมรมเศรษฐกิจนิวยอร์ก มีการโจมตีธนาคารกลางสหรัฐว่าไม่ยอมใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบส่งผลเสียกับเศรษฐกิจอเมริกา ขณะเดียวกันทรัมป์ก็พยายามให้ความหวังว่าจะสามารถเจรจาข้อตกลงการค้า เฟสแรกกับจีนได้ภายในเร็ววันนี้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
ส่วนในฝั่งตลาดเงิน จุดที่น่าสนใจในคืนที่ผ่านมาคือการอ่อนค่าของเงินชิลีเปโซ 4.6% จากความไม่สงบทางการเมือง จึงต้องจับตาว่าวันนี้จะมีผลส่งต่อมาสู่ตลาดเงิน Emerging Markets ฝั่งเอเชียและยุโรปอย่างไร
“ด้านเงินบาท แม้โดยรวมจะดูไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก แต่ฝั่งดอกเบี้ยยังคงปรับตัวลงต่อเนื่องหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ย ล่าสุดนักลงทุนก็เริ่มกังวลกับปัญหาสภาพคล่องสิ้นปี ที่มักมีความต้องการเงินบาทสูง จึงขายสวอป กดดันดอกเบี้ยระยะสั้นอายุ 6 เดือน ลงไปต่ำกว่าระดับดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.22% ในทางกลับกัน ผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ระยะยาวในไทยยังคงปรับตัวขึ้นตามฝั่งสหรัฐ เนื่องจากมีแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ แต่เงินบาทกลับไม่อ่อนค่า ช่วงต่อไปจึงต้องระวังว่าถ้าตลาดกลับมาปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) อาจเห็นเงินบาทพลิกกลับลงไปแข็งค่าเร็วได้” ดร.จิติพลกล่าว